THAI REALITIES
Under threat from state authorities, mother-son relationships are forced to be terminated.
ความจริงประเทศไทย
ภายใต้การกดดันอย่างหนักจากเจ้าหน้าที่ไทย – แม่กับลูกต้องตัดขาดความสัมพ้นธ์
7.7. 2020
ภาพจากเฟซบุ๊ก / Pictures from Facebook Tiwagorn Withiton
ข้อความต่อไปนี้เป็น ‘หนังสือข้อตกลง’ ยืนยันการตัดออกจากตระกูล ระหว่างแม่กับลูกชาย โดยที่แม่และลูกชายตกลงที่จะตัดขาดความสัมพันธ์ตลอดไป ทั่วทั้งประเทศไทย เจ้าหน้าที่รัฐ ต่างก็กดดันผู้คนให้ต้องเขียนบันทึกข้อตกลงที่น่ารังเกียจอย่างที่สุดแบบนี้กันอยู่เสมอ ไม่ใช่เฉพาะกับคนไม่กี่คนเท่านั้น แต่คนเป็นแสนเป็นล้านในประทเศไทย ก็อยู่ภายใต้การสภาวการณ์เช่นนี้
Below is a ‘Letter of Agreement’ between a mother and her son, in which mother and son ‘agree’ to terminate their relationship forever. All across Thailand official pressure to write such hideous ‘agreements’ has become commonplace, not for a handful of people or hundreds or thousands of people, but for millions of people.
ในตัวอย่างนี้ แม่ทองเหรียญ โสภา จากตระกูล โสภา ที่จังหวัดขอนแก่น ต้องประกาศว่าเธอตัดขาดความสัมพันธ์ที่มีในทุกด้านกับลูกชาย นายทิวากร วิถีตน (45 ปี) ซึ่งมีอาชีพวิศวกร และในขณะเดียวกัน เขาก็ประกาศว่าไ้ด้ขาดความสัมพันธ์กับแม่ของเขา รวมทั้งครอบครัวของเขาตลอดไปเช่นกัน
In this example Ms Thongrian Sopa of the family Sopa from the Province of Khon Kaen, declares that she has severed forever all aspects of her relationship to her son Mr. Tiwagorn Withiton (45), an engineer, and he in turn declares that he has severed forever all contact with his mother, home and family.
ในเอกสารข้อตกลงทั้งสองส่วน ได้แสดงถึงความพยายามของครอบครัวโสภา ที่จะรักษาชีวิตของคนในครอบครัว จากความหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้ายโดยเจ้าหน้าที่รัฐและพวกลูกสมุน
The two parts of the text of this ‘agreement’ represent a desperate attempt by the Sopa family to protect the family from fearful harassment by state officials and agents.
ทิวากร ไม่ใช่ผู้นำของขบวนการต่อต้าน เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่อาจจะทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไปต่อความรุนแรงที่กระทำโดยผู้ปกครองเผด็จการ เขาเป็นคนที่ถูกรายงานไปยังเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะใส่เสื่อยืดที่เขาออกแบบเอง และพิมพ์ให้กับตัวเอง ด้วยคำว่า “เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว”
Tiwagorn is no blazing leader of mass dissent, just a man who can no longer abide the violence of the ruling regime, who was observed and reported to the authorities for wearing a T-shirt, that he had designed and printed for himself, with the words “We have No More Faith in the Thai Monarchy.”
ข้างล่างนี้เป็นคำแปลจากภาษาไทยมาเป็นภาษาอังกฤษ ของข้อตกลงของครอบครัวนี้ ที่ทำขึ้นระหว่างแม่กับลูกชาย
Below is a direct translation from Thai to English of the text of this family ‘Agreement’ between mother and son.
หนังสือยืนยันการตัดนายทิวากร วิถีตน ออกจากตระกูล “โสภา” และตัดความเป็นแม่–ลูกกับนางทองเหรียญ โสภา
สืบเนื่องจากการที่นายทิวากร วิถีตน บุตรชายของข้าพเจ้าเจา (นางทองเหรียญ โสภา) ได้ใส่เสื้อยืด “เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว” แล้วถ่ายรูปและโพสต์ขึ้นไปบน Facebook ส่วนตัวของนายทิวากร วิถีตน ในวันที่ 16 มิ.ย. 2563 หลังจากนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่มาหาที่บ้าน 3 ครั้ง ดังนี้
- วันที่ 19 มิ.ย. 2563 มีเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. จำนวน 2 คนมาถามข้อมูลเกี่ยวกับเสื้อ ” เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว” โดยข้าพเจ้าได้ตอบไปว่าไม่รู้เรื่อง
- วันที่ 20 มิ.ย. 2563 มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายจำนวนกว่า 10 นาย ทั้ง กอ.รมน. เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.อ. ท่าพระ และเจ้าหน้าที่ที่คาดว่ามาจากส่วนกลาง ได้มาซักถามนายทิวากร วิถีตน ซึ่งข้าพเจ้าและคนอื่นๆ ในครอบครัวก็ได้ร่วมฟังด้วย
- วันที่ 4 ก.ค. 2563 มีเจ้าหน้าที่ กอ. รมน. 1 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากตำรวจภูธรภาค 4 อีก 1 นาย รวมทั้งหมด 2 นาย ได้มาซักถามและพูดคุยกับนายทิวากร วิถีตน ที่บ้านของข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าก็ได้ร่วมรับฟังด้วย
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้ข้าพเจ้าและคนอื่นๆ ในครอบครัว เริ่มรู้สึกว่า ไม่ปลอดภัย เกรงว่าจะมีผู้ประสงค์ร้าย มาเล่นงานข้าพเจ้าและคนอื่นๆ ในครอบครัว ในรูปแบบต่างๆ เช่น มายิงบ้านของข้าพเจ้า หรือเกิดเหตุไฟไหม้บ้านของข้าพเจ้า ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับนักต่อสู้เพื่อ ปชต. คนอื่นๆ ตัวอย่างเช่น อ. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล (โดนคนร้ายยิงปืนเข้าไปในบ้าน แต่โชคดีไม่โดนคน) คุณจักรภาพ เพ็ญแข (ไฟไหม้บ้านแม่ ในขณะที่คุณจักรภพ พำนักอยู่ต่างประเทศ)
อนึ่ง ข้าพเจ้าและคนอื่นๆ ในครอบครัว ไม่เห็นด้วย และไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายทิวากร วิถีตน แต่อย่างใด ข้าพเจ้าและครอบครัวคิดว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายทิวากร วิถีตน เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าและคนอืนๆ ในครอบครัว เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ตอ้งการให้นายทิวากร วิถีตน หยุดใส่เสื้อ ” เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว” ซึ่งก่อนหน้านี้ ข้าพเจ้าได้พยายามห้ามปรามนายทิวากร วิถีตนหลายต่อหลายครั้งว่า ให้หยุดใส่เสื้อตัวนี้ และให้หยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วย แต่นายทิวากร วิถีตน ก็ไม่เคยเชื่อฟัง
หากในภายภาคหน้า นายทิวากร วิถีตน ได้ทำผิดกฎหมายหรือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ข้าพเจ้าและคนอื่นๆ ในครอบครัวขอให้เจ้าหน้าที่รัฐได้จัดการกับนายทิวากร วิถีตน ได้ทุกรูปแบบ โดยที่ข้าพเจ้าและคนอื่นๆ ในครอบครัว จะไม่ติดใจเอาความกับเจ้าหน้าที่รัฐในทุกกรณี
ข้าพเจ้าและคนอื่นๆ ในครอบครัวขอประกาศว่า นับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. 2563 นายทิวากร วิถีตน ได้ออกจากตระกูลโดยสมบูรณ์ และข้าพเจ้ากับนายทิวากร วิถีตน ได้ตัดขาดความเป็นแม่–ลูกกันโดยเด็ดขาดแล้ว ต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับนายทิวากร วิถีตน ถือว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าและคนอืนๆ ในครอบครัวใดๆ ทั้งสิ้น
ข้าพเจ้า + คนอื่นๆ ในครอบครัว และตัวนายทิวากร วิถีตน ได้ทำข้อตกลงร่วมกันว่า ต่างฝ่ายต่างตัดขาดจากกันและกัน หลังจากที่นายทิวากร วิถีตน ย้ายออกจากบ้านของข้าพเจ้าแล้ว (คาดว่าจะออกไม่เกินวันที่ 20 ก.ค. 2563) จะไม่มีการติดต่อหรือส่งข่าวถึงกันและกันอีกเลย
จึงเรียนมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐ และทุกๆ ท่านได้ทราบโดยทั่วกัน
นางทองเหรียญ โสภา
5 ก.ค. 2563
ข้าพเจ้านายทิวากร วิถีตน ขอยืนยันว่า สิ่งที่นางทองเหรียญ โสภา ได้กล่าวไว้ข้างต้น เป็นความยินยอมพร้อมใจของข้าพเจ้าทุกประการ หลังจากที่ข้าพเจ้าย้ายออกจากบ้านของนางทองเหรียญ โสภา แล้ว ข้าพเจ้าจะไม่ติดต่อไปที่นางทองเหรียญ โสา และคนอื่นๆ ในครอบครัวโดยเด็ดขาด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าพเจ้าจะไม่กลับมาที่บ้านของนางทองเหรียญ โสภาอีกเลย และข้าพเจ้า จะไ่ม่ขอพบหน้ากับนางทองเหรียญ โสภา และคนอื่นๆ ในครอบครัวอีกเลย ในทุกๆ กรณี ข้าพเจ้าจะไปใช้ชีวิตของข้าพเจ้า สิ่งที่ข้าพเจ้าทำหลังจากที่ออกจากบ้านของนางทองเหรียญ โสภา ถือว่าไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับนางทองเหรียญ โสภา และคนอื่นๆ ในครอบครัว ในทุกกรณี
จึงเรียนมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐ และทุกๆ ท่านทราบโดยทั่วกัน
นายทิวากร วิถีตน
5 ก.ค. 2563
Letter of Agreement
“This Agreement hereby evidences that Mr. Tiwagorn Withiton has been disowned by his family, who holds the family name “Sopa”, and that the severance of the relationship between him and his mother Mrs. Thongrian Sopa is because of his political expression.
Following the action of Mr. Tiwagorn Withiton, my son, who was wearing the T-shirt “We have No More Faith in the Thai Monarchy.” and took a picture and posted it in the Facebook of Mr. Tiwagorn Withiton on 16 June 2020. Soon after that, there were officials visiting my house 3 times, as the following details:
1. On 19th June, 2020, a visit by two officials from Internal Security Operations Command (ISOC) came to inquire of me about how my son, Tiwagorn, got the T-shirt with a print on the front saying “ We have No More Faith in the Thai Monarchy.” I said I did not know anything about my son’s T-shirt.
2. On 20th June, 2020, a visit by more than ten officials from various offices, including ISOC officials, provincial police officers of Amphoe Tapra, and other officials thought to be from the central authorities, came to investigate my son, Tiwagorn, in the presence of myself and members of my family.
3. On 4th July, 2020, a visit by an ISOC official and a police officer from Provincial Police Region 4, together two people, came to inquire and talk with my son, at my house in my presence.
Given such recurrence as mentioned above, I and my other family members have all felt our exposure to some lurking of dangers. We are afraid that those with ill intention would harm myself and other family members in any way whatsoever, for instance, they might come to shoot at my house, or set fire to my property like in the consequences faced by other pro-democracy campaigners in Thailand, for example, university lecturer Somsak Jeamteerasakul who had guns fired at his house (luckily nobody was hurt), or Jakrapob Penkair (his mother’s house was set on fire while he was in exile overseas).
By no means neither me or my family members agrees and / or supports the political movements / activities of my son Tiwagorn. I and my family members consider that Tiwagorn’s political expressions are highly inappropriate. I and my family members fully agree with those authorities that would like to see my son stop wearing the T-shirt with a print on the front saying “We have No More Faith in the Thai Monarchy.” Earlier, for several times, I try to stop my son Tiwagorn to wear this T-shirt in question, and to stay away from any political movements altogether. But Tiwagorn never obeyed.
If in the future, if my son Tiwagorn commits any crime and poses any threat to the national security, I and other family members will ask all the involved authorities to deal with my son Tiwagorn directly, in whatsoever ways they see fit. There shall be no legal action taken neither by me nor my family members against the authorities involved in the pursuit of any actions.
In addition, I and my family members would like to declare that from 5th July 2020 onward, Tiwagorn Withiton has been refused completely any connection with his family, resulting in his use no longer of the family name “Sopa”. Moreover, the relationship between me and Tiwagorn as mother and son has all been terminated. Whatever will happen to Tiwagorn Withiton in the future shall be deemed irrelevant to me and to all my family members.
I with all my family members and Tiwagorn Withiton have all consented to this agreement that Tiwagorn has ended all the connection to his family and is no longer related to his mother. Tiwagorn must move out of my house (presumably by 20th July, 2020) and strictly there shall be no contact between both sides.
I hereby notify to all the involved authorities and the public of the above.
(Signed) Thongrian Sopa
(In print) Mrs. Thongrian Sopa
5th July, 2020
I, Mr. Tiwagorn Withiton, hereby confirm that what Ms. Thongrian Sopa has written above has fully received my consent. After I move out of the house of Mrs. Thongrian Sopa, I will no longer contact Mrs. Thongrian Sopa and all of her family members in any way. Whatever will happen to me, I will absolutely no longer return to the house of Mrs. Thongrian Sopa in any way, nor shall I make any personal contact at all with Mrs. Thongrian Sopa and all of her family members. I will live my life on my own; whatever I will do after I walk out of Mrs. Thongrian Sopa’s house is certainly not relevant in any way to Mrs. Thongrian Sopa and all of her family members.
I hereby notify to all the involved authorities and the public of the above.
(Signed) Tiwagorn Withiton
(In print) Mr. Tiwagorn Withiton
5th July, 2020