จับกุมเพิ่มอีก 1 คน ผู้ต้องหากรณีสหพันธรัฐไท เหตุจากสวมเสื้อสีดำ ยืนหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 5 ธ.ค. 61 ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น และมาตรา 209 เป็นอั้งยี่ ศาลเรียกหลักประกันสูงถึง 600,000 บาท
เย็นวันที่ 25 ก.ย. 62 ที่กองบังคับการปราบปราม พนักงานสอบสวนรับตัว ลูกแก้ว (นามสมมติ) อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาคดีสหพันธรัฐไท ที่ตำรวจส่งตัวมาจากจังหวัดเชียงใหม่
หลังตำรวจจับกุมลูกแก้วได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. ที่ห้องโถงผู้โดยสารขาออกท่าอากาศยานเชียงใหม่ ขณะที่ลูกแก้วกำลังเข้ารับการตรวจหนังสือเดินทาง ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ผู้โดยสารขาออก) ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวที่สาธารณรัฐประชาชนจีน
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงตัวพร้อมหมายจับในข้อหา “กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ได้หรือมิใช่แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และเป็นอั้งยี่” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116(2)(3) และมาตรา 209 จากนั้นลูกแก้วถูกนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรภูพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ควบคุมและสอบปากคำ ในวันที่ 25 ก.ย. เวลา 02.00 น. ก่อนจะดำเนินการส่งตัวต่อมาที่กรุงเทพฯ
ต่อมา 26 ก.ย. พนักงานสอบสวนกองปราบฯ ได้นำตัวลูกแก้วฝากขังต่อ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ลูกแก้วยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งศาลเรียกหลักประกันสูงถึง 600,000 บาท ก่อนอนุญาตให้ปล่อยตัว
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า คดีความผิดมาตรา 116 และมาตรา 209 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี วงเงินประกันในคดีประเภทนี้จะอยู่ไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งยังเป็นไปตาม ข้อ 5.3 ข้อบังคับประธานของศาลฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการเรียกประกันหรือหลักประกันในการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2548 แก้ไขโดยฉบับที่ 2 พ.ศ. 2562 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 ซึ่งกำหนดว่า “คดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี ให้ศาลใช้ดุลพินิจอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้โดยไม่ต้องมีประกัน หากมีเหตุจำเป็นต้องมีประกันให้กำหนดวงเงินไม่เกิน 200,000 บาท เว้นแต่มีเหตุสมควรที่จะสั่งเป็นอย่างอื่น ก็ให้ระบุเหตุนั้นไว้โดยชัดแจ้ง”
อย่างไรก็ตาม นับเป็นคดีที่ 2 ในกลุ่มคดีสหพันธรัฐไทที่ศาลเรียกวงเงินประกันสูงขึ้นเป็น 600,000 บาท เช่นเดียวกับคดีของกรณีกาญจนา (นามสมมติ) ข้าราชการบำนาญ ชาวจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวเมื่อวัน 23 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยทั้งสองกรณีไม่มีการระบุเหตุสมควรในการกำหนดวงเงินประกันสูงกว่าข้อบังคับของประธานศาลฎีกาแต่อย่างใด
ผู้ถูกดำเนินคดีคนที่ 20
เหตุที่ทำให้ลูกแก้วถูกดำเนินคดีครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 62 พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับลูกแก้ว แจ้งข้อกล่าวหาว่า วันที่ 5 ธ.ค. 61 ลูกแก้วได้สวมเสื้อสีดำ ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็นธงของสหพันธรัฐไท โดยผู้ต้องหามานั่งแสดงสัญลักษณ์ดังกล่าว ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ถนนพระปกเกล้า ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ต่อมาในวันที่ 13 ธ.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร หัวหน้ารักษาความสงบ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ได้เข้าตรวจค้นบ้านของลูกแก้ว พบสิ่งของต่าง ๆ เกี่ยวกับสหพันธรัฐไท โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดไว้ทั้งหมด
องค์กรสหพันธรัฐไทเป็นประเด็นข่าวที่มีความเคลื่อนไหวมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2561 และเป็นที่พูดถึงจากการนัดรวมตัวกันใส่เสื้อดำเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 61 ตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไปติดตามขัดขวาง รวมถึงควบคุมตัวบุคคลตามมาซึ่งเหตุการณ์คุมตัวบุคคลยาวต่อเนื่องอยู่เกือบสัปดาห์ แต่เท่าที่ศูนย์ทนายความฯ รับทราบก็เหมือนจะไม่ได้มีการดำเนินคดีกับบุคคลใดจนกระทั่งเข้าสู่ปี 2562 ที่มีการออกหมายเรียกบุคคลที่เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนั้นเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามมา
ปัจจุบัน มีผู้ที่ถูกดำเนินคดีเพราะเกี่ยวพันกับกลุ่มสหพันธรัฐไท แล้วอย่างน้อย 20 คน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็มีการจับกุมอีกหนึ่งคนที่เชียงใหม่เช่นกัน
อ่านภาพรวมคดีสหพันธรัฐไททั้งหมดได้ที่ 1 ปี ความเคลื่อนไหวคดี ‘สหพันธรัฐไท’: ดำเนินคดีอย่างน้อย 20 คน ใน 11 คดี