Killed for RAMA 10 – ถูกฆ่าเพื่อรามา10

15 พ.ค. 2020

 

ภาพ “ถุกฆ่าเพื่อรามา 10” นี้ฉายแสงไปยังสถานทูตไทย ณ กรุงเบอร์ลิน เมื่อค่ำคืนวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 โดยองค์กร PixelHELPER

 

ศพของผู้ลี้ภัยการเมืองไทย 3 คนที่ถูกอุ้มหายไปจากลาวเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561  – ศพนี้คือศพที่เป็นปริศนา และคาดการณ์กันว่าเป็นศพของสุรชัย แซ่ด่าน เพราะว่าเป็นศพที่ผู้เกี่ยวข้องอ้างว่าหลุดลอยไป

 

นี่คือสภาพศพของผู้ลีภัยไทยในทีมของสุรชัย แซ่ด่าน พวกเขาถูกสังหารแล้วกว้านท้องเอาแท่งปูนยัดเพื่อท่วงน้ำหนัก ตีหน้าจนเละเพื่อให้จำไม่ได้ แล้วมันกระสอบป่านถูกเชือกแน่นหนา แล้วทิ้งศพลงแม่น้ำโขง ศพทั้งสอง (สาม) ลอยขึ้นมาติดที่ฝั่งแม่น้ำโขงที่จังหวัดนครพนมระหว่างวันที่ 26 – 29 ธันวาคม 2563

 

Killed for RAMA 10 –  ถูกฆ่าเพื่อรามา10

#ผู้ลี้ภัยการเมือง_112 ที่ #ถูกฆ่าเพื่อรามา10 ทั้ง 9 คนเป็นใคร?

เขียนโดย จรรยา ยิ้มประเสริฐ, ACT4DEM

15 พฤษภาคม 2563

 

จะเริ่มที่ 8 คนแรกก่อน ทั้งหมดเป็นนักเคลื่อนไหวตั้งแต่อยู่ในเมืองไทย ทั้งร่วมในขบวนการเสื้อแดงและก่อนหน้านั้น ทั้งตาสว่างมานานแล้ว และก็เพิ่งตาสว่าง

พวกเขาตัดสินใจลี้ภัยการเมืองข้ามฝั่งโขง หลังจากทหารยึดอำนาจเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 และเมื่อข้ามไปแล้ว ก็จัดการการวิทยุหลายสถานี เพื่อต่อต้านเผด็จการ และเพื่อเรียกรองระบบการเมืองแบบสาธารณรัฐ หรือสหพันธรัฐ

รายการของพวกเขามีคนติดตามเยอะมาก จนสั่นสะเทือนสำนักพระราชวัง และเมื่อใกล้สิ้นรัชกาลที่ 9 และเพื่อการเตรียมตัวขึ้นของรัชกาลที่ 10 รายชื่อของพวกเขาก็ถูกส่งไปให้ทางการของประเทศเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องและเปิดช่องทางให้หน่วยล่าสังหารจากไทยข้ามไปสังหารพวกเขา

พวกเขารวมทั้งวงไฟเย็น ที่รอดชีวิตมาได้ ต้องอยู่ด้วยการปกปิดที่พัก ย้ายที่พักกันบ่อยๆ และพยายามจัดรายการกันต่อไป

แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นหน่วยล่าสังหารที่กำกับโดยไอ้ค้อก ที่ขึ้นผงาดหลังจากกำจัดคู่แข่ง พลตรีพิสิฐศักดิ์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา อดีตรองผู้บังคับ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ที่มีความสัมพันธ์ดีกับหมอหยอง พร้อมทีมหมองหยองไปได้หมดแล้วในช่วงปลายปี 2558

ไอ้ค้อกขาโหด ก็ขนคนของตัวเองเข้ามาทั้งดันน้องชาย พลตรีจัรภพ ภูริเดช ขึ้นตำแหน่งผู้บัญชาการกองปราบ หลังจากกำจัดอดีต พลตำรวจโทพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ และพันตำรวจเอก อัครวุฒิ หลิมรัตน์ สำเร็จ พร้อมดันน้องเขย พล.ต.ท. ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ครองตำแหน่งของพงศ์พัฒน์แทน (ปัจจุบันได้ยศพลเอก รับตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์)

เมื่อทีมค้อกขึ้นมา กระบวนการจัดการกับคนเห็นต่าง ไม่ว่าคนในคนนอก จึงโหดร้ายป่าเถื่อนขึ้นมาก ทั้งเรื่องราวการซ่อมจนตาย การกักขังและซ้อมทรมานในคุกและในค่ายทหารในเขตวังทวีวัฒนาก็มีออกมาเป็นระยะๆ

และการล่าสังหารคน 112 ที่ไม่หยุดเคลื่อนไหวก็มีมาตลอด

22 มิถุนายน 2559 อิทธิพล สุขแป้น หรือเบียร์ หรือดีเจซูนโฮ (29 ปี) ถูกอุ้มหายที่ลาว

29 กรกฎาคม 2560 วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ (47 ปี) ถูกอุ้มหายต่อหน้าเพื่อนและเมียจากลาว

12 ธันวาคม 2561
สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ สุรชัย แซ่ด่าน (75 ปี)
ชัชชาญ บุปผาวัลย์(54 ปี)
และไกรเดช ลือเลิศ (47 ปี)
ถูกอุ้มหายจากบ้านพักที่ลาว ระหว่างเตรียมตัวหลบภัย

ปลายมกราคม 2563 (เรื่องมาเป็นข่าวเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2562)
ชูชีพ ชีวสุทธิ์ (65 ปี) และทีมงานอีก 2 คนได้แก่
สยาม ธีรวุฒิ (34 ปี) และ
กฤษณะ ทัพไทย ( ไม่ทราบอายุแน่ชัดประมาณ 60 ปี)
ได้หายไปจากเวียดนามระหว่างรอดำเนินเรื่องไปประเทศที่สาม

นี่คือ ผู้ลี้ภัย 112 ที่เป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดโปงความสัมพันธ์ระหว่างทหารและราชสำนัก และเรียกร้องระบอบการเมืองสาธารณรัฐ หรือสหพันธรัฐฯ มาต่อเนื่องนับตั้งแต่รัฐประหาร 2557

พวกเขาทั้ง 8 คน ถูกสันนิฐานว่าเสียชีวิตหมด แต่มีการพบศพเพียง 2 คน ซึ่งทราบชัดเจนว่าคือ สหายภูชนะ (ชัชชาญ บุปผาวัลย์) และสหายกาสะลอง (ไกรเดช ลือเลิศ) สองคนที่ถูกอุ้มหายไปพร้อมกับสุรชัย แซ่ด่าน

และมีผู้ลี้ภัยคนที่ 9 ที่ถูกอุ้มหาย คือ ร้อยโทเฉลิมศักดิ์ เรือนมงคล อายุ 32 ปี นายทหารหนุ่มที่เก่งและมีอนาคตไกล เขาต้องลี้ภัยเพราะข้อเขียนในเฟซบุ๊ค และถูกอุ้มหายในระหว่างรอเข้าพบ UNHCR ที่ฟิลิปปินส์ คาดว่าจะถูกอุ้มหายระหว่างวันที่ 5-8 เมษายน 2562

นี่คือ ผู้ลี้ภัยการเมืองทั้ง 9 คน ที่ถูกอุ้มหาย อุ้มฆ่าอย่างโหดร้ายป่าเถื่อน เพียงเพราะเขาต้องการพูดความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา และเรียกร้องระบอบการปกครองที่มาจากการเลือกตั้ง

นอกจากนี้ก็ยังมีข่าวว่า มีผู้เสียชีวิตในสงครามแย่งชิงอำนาจของทีมงานเสี่ยโออีกหลายคน ข่าวว่านายทหารตำรวจที่ลี้ภัยในทีมหมอหยองก็เสียชีวิตไปหลายคน (เรื่องนี้ไม่อาจฟันธง และต้องติดตามข้อเท็จจริงกันต่อไป)​

พวกเราคน 112 ที่เคลื่อนไหวต่อเนื่องก็จะได้รับคำเตือนกันอยู่ตลอดเวลาให้ระวังตัว และก็เป็นคำเตือนที่มีมูลความจริง

ทั้งชีวิตของผู้คนในเมืองไทย
และชีวิตของคนวิจารณ์เจ้าที่ต่างแดน
ต่างก็อยู่ในอันตรายได้
ถ้าปล่อยให้วิถีการปิดปากคนคิดต่างอย่างป่าเถื่อนแบบนี้ดำรงอยู่

และนี่คือความจำเป็นที่จะต้องสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม และเรียกร้องให้มีการสอบสวนการเสียชีวิตของผู้ลี้ภัยการเมืองทั้ง 9 คน และความยุติธรรมให้กับทุกคนที่เสียชีวิตในนาม “#ถูกฆ่าเพื่อรามา10 ทุกคน