2553 – 2563 รำลึกถึงผู้เสียชีวิต: ทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องหยุดทำร้ายประเทศไทย

2553 – 2563 รำลึกถึงผู้เสียชีวิต: ทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องหยุดทำร้ายประเทศไทย

เรียบเรียงโดย จรรยา ยิ้มประเสริฐ

ACT4DEM – แอคชั่นเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย

19 พฤษาคม 2563

ภาพของผู้เสียชีวิต เป็นเยาวชนที่ไปสังเกตการณ์ ที่สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้คนทั่วประเทศไทยและทั่วโลก

พฤษาคม 2553 – พฤษภาคม 2563 ประเทศไทยยังอยู่ภายใต้อำนาจท๊อปบู๊ทศักดินา “ทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”

ย้อนอดีต เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ในภาวะที่กรุงเทพคลุ้งไปด้วยเลือดและเขม่าปืนจากการระดมยิงของทหารรักษาพระองค์ร่วม 50,000 นาย ที่ผลัดเปลี่ยนกันมา “ล้อมยิงโดยกระหยิ่ม” ประชาชนที่ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบรัฐสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ รัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยรองนายกรัฐมนตรีสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้จับมือกับราชสำนักและกองทัพไทยอย่างเหนียวแน่นในการไม่ยอมเจรจา มีการประกาศใช้คำสั่งในสถานการณ์ฉุกเฉิน และอนุญาตให้มีการใช้กระสุนจริงยิงประชาชน

 

มีการใช้กระสุนจริงไปถึง 117,923 นัด และกระสุนสไนเปอร์ไปถึง 2,120 นัดในการยิงประชาชนที่ประท้วงอย่างสันติอหิงสา

รายชื่อวีรชนคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตเพราะการให้ใบอนุญาตฆ่า

ข้อมูลและรายละเอียดการเสียชีวิตของประชาชนร่วมร้อยคนจากการปราบปรามของทหารตามคำสั่งของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวิต และกำกับโดยผู้บัญชาการทหารบก ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน – 19 พฤษภาคม 2553 ต่อไปนี้ ได้ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากรายงานของ คณะทำรายงานรายงานของศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมกรณี เม.. – .. 53 (ศปช.)

 

ผู้เสียชีวิต 10 เมษายน 2553

ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ “ขอคืนพื้นที่” เมื่อวันที่10 เมษายน 2553 ในเวลากลางวันนั้น มีทั้งหมด รายได้แก่

  1. นายเกรียงไกร คําน้อย อายุ 23 ปี มีอาชีพขับรถสามล้อเครืองอยู่ในกรุงเทพฯ เกรียงไกร มาเข้าร่วมชุมนุม และถูกยิงบาดเจ็บทีบริเวณสะพานมฆั วานรังสรรค์ ข้างกําแพงกระทรวงศกึ ษาธิการ เขาถูกยิงทีสะโพกและอกด้วยกระสุนปืนความเร็วสูงเสียชีวิตทีโรงพยาบาลวชิระเมือเวลา03.30. ของวันที่11เมษายน2553

  2. นายอนสันต์ ชินสงคราม อายุ 38 ปี เข้ามาทํางานรับจ้างวาดรูปในกรุงเทพฯ อนสันต์ถูกแก๊สน้ำตาทีทหารยิงใส่ผู้ชุมนุมบริเวณสะพานมัฆวานในช่วงบ่ายหลังจากนั้นเขาก็มีอาการปอด อหักเสบเรื้อรังและต้องเข้ารับการรักษาเป็นระยะ ๆ เขากลบั ไปรักษาตัวที่บ้านใน จ. ขอนแก่น และ เสียชีวิตในวันที่ 6 ตลุ าคม 2553 ด้วยสาเหตุปุ อดติดเชื้อ

  3. นายมนต์ชัย แซ่จอง อายุ 54 ปี มีอาชีพขายเทปเพลงมือสองอยู่ที่ท่าช้าง มนต์ชัย ทิง$ แผง ขายเทปไปทีชุมนุม บริเวณผา่ นฟ้ าทันทีเมือทราบข่าวว่าทหารกําลงั เข้ามาสลายการชุมนุม บา่ ยวันนั้น เขาถูกแก๊สน้ำ ตา ประมาณหนึงทุ่มเขาก็มีอาการไม่สบาย หนาวสัน ต่อมาชีพจรของเขาเต้นเร็ว ผิดปกติจนต้องนําตัวส่งโรงพยาบาลกลาง และเสียชีวิตในเวลา 02.50 . ของวันที่ 11เมษายน 2553 ด้วยสาเหตุตุ ดิ เชือ$ ในกระแสเลือด ทําให้ระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลสัน

ส่วนผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ “ขอคืนพื้นที่” ในช่วงหลัง18.00 . มีทั้ง หมด 24 ราย ได้แก่

  1. นายธวัฒนะชัย กลัดสุข อายุ 36 ปี มีอาชีพลูกจ้างธนาคารและขับรถแท็กซี อาศัยอยู่ จ. นนทบุรี ธวัฒนะชัย ถูกยิงเข้าที่อกซ้ายทะลุหลัง และทีต้นขาซ้ายขณะร่วมชุมนุม ที่บริเวณถนนตะนาว สีแยกคอกวัวเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาลจากบาดแผลกระสุนปืนความเร็วสูงตัดผ่านหลอดเลือด แดงใหญ่ทรวงอก

  2. นายไพรศล ทิพย์ลม อายุ 37 ปี อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มีอาชีพชิปปิ้งท่าเรือ ไพรศลถูกยิง ศีรษะด้านหน้าทะลุทุ ้ายทอยขณะร่วมชุมนุม อยู่ที่บริเวณถนนตะนาว สีแยกคอกวัวและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหัวเฉียว จากบาดแผลกระสุนปืนความเร็วสูงที่ศีรษะทําลายสมอง

  3. นายอําพน ตติยรัตน์ อายุ 26 ปี เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม อําพนถูกยิงศีรษะด้านหลังทะลุด้านหน้าขณะร่วมชุมนุม อยู่ที่บริเวณถนนตะนาว สี่แยกคอกวัวเขา เสียชีวิตขณะนําส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว จากบาดแผลกระสุนปืนความเร็วสูงทีศีรษะทําลายสมอง

  4. ชื่อของนายอนันต์ ชินสงคราม ไม่เคยปรากฏว่าเป็นผูเ้ สยี ชีวิตจากการสลายการชุมนุมมาก่อน แม้ว่าเขาจะ เสียชีวิตภายหลังจากได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ 10 เมษา เป็นเวลานาน แต่ ศปช. พิจารณาว่า การตายของเขา ถือได้ว่าเป็นผลสืบเนืองมาจากแก๊สน้ำตาเมื่อวันที่ 10 เมษายนด้วย.

  5. นายอนันต์ สิริกลุวาณิชย์ อายุ 54 ปี อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มีอาชีพรับเหมาทําอลูมิเนียม อนันต์ถูกยิงเข้าทีลําคอด้านซ้ายขณะร่วมชุมนุมที่บริเวณถนนตะนาวแยกคอกวัวเขาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลกลางด้วยอาการปอดอักเสบติดเชื้อจากบาดแผลกระสุนปืนทีคอ เมือวันที่14 พฤษภาคม 2553

  6. นายเทิดศักดิ์ ฟุ้งกลินจสันทร์ อายุ 29 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ขณะร่วมชุมนุม อยู่ที่บริเวณ ถนนตะนาว แยกคอกวัวเทิดศหักดMถิ กู ยิงเข้าที่บริเวณทรวงอกหลายตําแหน่ง และเสียชีวิตเมือเวลา 03.00 . ของวันที่ 11 เมษายน 2553 ทีโรงพยาบาลราชวิถี เนื่องจากบาดแผลบริเวณทรวงอกทะลุหัวใจและปอด

  7. นายสวาท วางาม อายุ 28 ปี หนุ่มสุรินทร์ที่เพิงย้ายถิ่นฐานเข้ามาทํางานรับจ้างใน กรุงเทพฯ ได้ไม่ถึงปี สวาทถูกยิงศีรษะด้านบนข้างขวา ทะลุขมับซ้าย ขณะร่วมชุมนุม ทีบริเวณถนน ตะนาว แยกคอกวัว เขาเสียชีวิตทันทีในทีเกิดเหตุจากบาดแผลกระสุนปืนความเร็วสูงทีศีรษะ ทําลายสมอง

  8. นายบุญธรรม ทองผุย อายุ 46 ปี อาชีพช่างไฟ ทํางานอยู่ที่กรุงเทพฯ ระหว่างชุมนุม อยู่ที่ บริเวณถนนตะนาวแยกคอกวัวบญุ ธรรมถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูงที่หน้าผากซ้ายทะลุศุ ีรษะ ด้านหลังส่วนบน สมองฉีกขาด เสียชีวิตขณะนําส่งโรงพยาบาลศิริราช

  9. นายสมิง แตงเพชร อายุ 49 ปี อาชีพขายน้ำ พริก ผักต้มตามตลาดนัดอาศัยอยู่ที่ จ. นนทบุรี สมิงถูกยิงศีรษะด้วยปืนสงครามขณะร่วมชุมนุมทีบริเวณถนนตะนาว แยกคอกวัวและ ต่อมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลจฬุ าฯ เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2553 เนืองจากสมองบวมช้ำฉีกขาด มี เลือดออกในเนื้อสมอง

  10. นายสมศักดิ์ แก้วสาร อายุ 34 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ในกรุงเทพฯ สมศักดิ์ถูกยิงด้วย กระสุนปืนความเร็วแที่หลังทะลุชายโครงขวา ขณะร่วมชุมนุม อยู่ที่บริเวณถนนตะนาว แยกคอกวัวเขาถูกนําตัวส่งโรงพยาบาลศิริราชและเสียชีวิตในคืนนั้นเนืองจากตับและไตขวาฉีกขาด

  11. นายบุญจันทร์ ไหมประเสริฐ อายุ 55 ปี อาชีพทําไร่อยู่ที่ จ. ราชบุรี บญุ จสันทร์ถูกยิงที่บริเวณขาหนีบข้างซ้ายขณะร่วมชุมนุมอยู่ที่บริเวณถนนดินสอ โรงเรียนสตรีวิทยา เสียชีวิตที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เมือเวลา 19.30 . เนืองจากเสียเลือดมากจากบาดแผลฉีกขาดทะลุบริเวณสะโพกข้างซ้ายและหัวเหน่าข้างซ้ายทะลุเข้าเส้นเลือดแดงใหญ๋

  12. นายยุทธนา ทองเจริญพูลพร อายุ 23 ปี บัณฑิตจบใหม่จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร อาศัยอยู่ จ.ราชบุรี ยทุ ธนาถูกยิงที่ศีรษะด้านหลังทะลุด้านหน้า และถูกกระสุนยางยิงทีขา ขณะร่วมชุมนุมอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เสียชีวิตขณะนําส่ง โรงพยาบาล

  13. นายวสันต์ ภู่ทอง อายุ 39 ปี มีอาชีพช่างเย็บผ้า อยู่ที่สมุทรปราการ วสันต์ถูกยิงศีรษะ ด้านหลังทะลุด้านหน้าและทีขาขณะร่วมชุมนุมอยู่บริเวณถนนดินสอหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เขา เสียชีวิตทันทีในทีเกิดเหตุจากบาดแผลกระสุนปืนความเร็วสูงทีศีรษะทําลายสมอง (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบใครยิง)

  14. นายสยาม วัฒนนุกูล อายุ 52 ปี ทําอาชีพช่างซ่อมรถโดยสารอยู่ในกรุงเทพฯ สยามถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูงเข้าทีหลังขณะร่วมชุมนุม อยู่บริเวณถนนดินสอหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เขาเสียชีวิตขณะนําส่งโรงพยาบาลกลางจากบาดแผลกระสุนปืนทีทรวงอกด้านหลังทะลุหลอดเลือด แดงใหญ่ช่องอกและเสียโลหิตปริมาณมาก (ศาลสั่งคดีชันสูตร วิถีกระสุนปืนยิงมาจากฝ่ายเจ้าพนักงาน)

  15.  นายจรูญ ฉายแม้น อายุ 46 ปี อาชีพขับแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ขณะร่วมชุมนุม อยู่บริเวณ โรงเรียนสตรีวิทยาจรูญถูกยิงเข้าทีอกขวา กระสุนฝังในบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว และเสียชีวิตขณะนําส่งโรงพยาบาลกลางจากบาดแผลกระสุนปืนความเร็วสูงทีทรวงอก ทําลายปอดและตับ (ศาลสั่งคดีชันสูตร วิถีกระสุนปืนยิงมาจากฝ่ายเจ้าพนักงาน)

  16. นายฮิโรยูกิ มรูาโมโต (Hiroyuki Muramoto) อายุ 43 ปี ช่างภาพโทรทัศน์ชาวญี่ปุ่นของสํานักข่าวรอยเตอร์ ฮิโรยกู ิถูกยิงทีอกซ้ายขณะกําลงั บสันทึกภาพเหตุการณ์อยู่ที่บริเวณถนนดินสอ หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา และเสียชีวิตระหว่างนําตัวส่งโรงพยาบาลกลางจากกระสุนปืนความเร็วสูงที่ ทรวงอกทําลายปอดและหลอดเลือดแดงใหญ่ (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบใครยิง)

  17. นายทศชัย เมฆงามฟ้า อายุ 43 ปี เป็ นชาวกรุงเทพฯ ทําอาชีพพนักงานขับรถส่งของให้ บริษัทเอกชน ขณะร่วมชุมนมุ อยู่บริเวณถนนดินสอหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ทศชัย ถูกยิงเข้าที่ราวนม ด้านซ้ายทะลุหลัง เขาเสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนความเร็วสูงทีทรวงอกทะลุหัวใจระหว่างนําส่งโรงพยาบาลกลาง (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบใครยิง)

  18. นายคนึง ฉัตรเท อายุ 50 ปี อาชีพเจ้าหน้าทีรักษาความปลอดภัย ของจฬุ าลงกรณ์ มหาวิทยาลัยขณะเข้าร่วมชุมนุม บริเวณถนนดนิ สอหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา คนึงถูกยิงด้วยกระสุนปืน ความเร็วสูงเข้าที่อกขวา กระสุนฝังใน เสียชีวิตระหว่างถูกนําตัวส่งโรงพยาบาลวชิระ ด้วยสาเหตุ เลือดออกในช่องอก ปอดฉีกขาด

  19. นายนภพล เผ่าพนัส อายุ 30 ปี ชาวชลบุรี ทํางานเป็นเจ้าหน้าทีคณะ เทคโนโลยีการเกษตรของมหาวิทยาลัยแห่ง หนึ่งไม่ชัดเจนว่าวันเกิดเหตุนุ ภพลทําอะไรอยู่ตรงไหน แต่ คาดว่านภพลน่าจะถูกยิงตรงบริเวณถนนดินสอ โดยถูกยิงทีท้องด้วยปืนสงคราม และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลวชิระเมือวันที่13เมษายน2553เวลา09.15.

  20. พลทหาร ภูริวัฒน์ ประพันธ์ อายุ 25 ปี ถูกระเบิดทีบริเวณถนนดินสอหน้าโรงเรียนสตรี วิทยาเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาลวชิระเนืองจากสมองฉีกขาด

  21. .. อนุพงษ์ เมืองรำพัน อายุ 21 ปี ถูกระเบิดที่บริเวณถนนดินสอหน้าโรงเรียนสตรี วิทยา เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาลวชิระเนืองจากหัวใจฉีกขาด

  22. .. (พิเศษ) ร่มเกล้า ธุวธรรม รองเสนาธิการ พล..2 รอ. อายุ 43 ปี บาดเจ็บจาก ระเบิดระหว่างปฏิบตั ิหน้าทีบริเวณถนนดินสอหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ถูกนําตัวส่งโรงพยาบาลพระมงกฎุเกล้าและเสียชีวิตเมื่อเวลา03.00.ของวันที่11เมษายน2553เนืองจากสมองฉีกขาด

  23. พลทหาร สิงหา อ่อนทรง อายุ 22 ปี ถูกระเบิดที่บริเวณถนนดินสอหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล เนื่องจากหัวใจฉีกขาด

  24. .. อนุพนธ์ หอมมาลี อายุ 29 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณถนนดินสอหน้าโรงเรียนสตรีวิทยาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลพระมงกฎุ เกล้าเมือวันที่13เมษายน2553เวลา17.45.ด้วยสาเหตุ สมองฉีกขาด

  25. นายมานะ อาจราญ อายุ 23 ปี ทํางานเป็นลูกจ้างของสวนสัตว์ดุสิต (เขาดิน) หลังจาก ทีการปะทะบริเวณถนนตะนาว–แยกคอกวัวและถนนดินสอโรงเรียนสตรีวิทยาได้ยุติลงแล้ว มานะถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูงในสวนสัตว์ดุสิตขณะกําลังเลิกงาน กระสุนเข้าทีศีรษะ ด้านหลังทะลุด้านหน้า สมองฉีกขาด เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ)

นอกจากรายชือผู้เสียชีวิตข้างต้นแล้ว ศปช. ยังได้รับข้อมูลผู้เสีย ชีวิตเพิมเติมว่า มีคนเสื้อแดง อีกอย่างน้อย 2 ราย ทีเสียชีวิตหลังจากได้รับบาดเจ็บสืบเนืองจากการเข้าร่วมชุมนุม เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 อย่างไรก็ตาม ด้วยยังขาดความหนักแน่นของข้อมูลบางประการ จึงไม่ได้นับรวมเข้า เป็นผ้เูสียชีวิตในรายงานนี้ บุคคลทั้งสองคือ 

29. นายมิตร โพธิสารอาชีพขับรถแท็กซีในวันที่10เมษายน2553เขาขับรถแท็กซีเข้าไปยังแนวของทหารและถูกแก๊สน้ำ ตายิงใส่ ต่อมาเพื่อนได้นําตัวเขาไปส่งโรงพยาบาล ระหว่างทียังรู้สึกตัวในคืนนั้นเขาขอร้องให้เพื่อนส่งเขาไปรักษาตัวหรือตายที่บ้านเกิดเพือนจึงพาเขากลบั บ้านทีศรีสะเกษ เมือไปถึงก็นําส่งโรงพยาบาลประจําอําเภอ และโรงพยาบาลอําเภอได้ส่งตวัเขาไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลประจําจงัหวัดสดุท้ายนายมิตรก็สิ้นลมหายใจในวนัที่12เมษายน2553

30. นายพรหมมินทร์ เก็มกาแมน อายุ 42 ปี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 โดยถูกก้อนหินปาใส่ใบหน้าบริเวณจมูกด้านซ้ายอย่างแรง พี่สาวของนายพรหมมินทร์ เล่าว่า บาดแผลในครั้งนั้นทําให้เกิดอาการติดเชื้อเพราะไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีทีโรงพยาบาล เนืองจากเขากลัวว่าจะถูกจับกุมภายหลังบาดแผลลุกลามกลายเป็นมะเร็งทางเดินหายใจและนาย พรหมมินทร์ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่2กัน

วันที่ 22 เมษายน 2553

31. นางธันยนันท์ แถบทอง อายุ : 50 ปี ขายอาหารตามสั่งที่ ถนนสีลมถูกสะเก็ดระเบิด บาดแผลฉีกขาดทะลุเข้าบริเวณทรวงอก หัวใจฉีกขาด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

วันที่ 28 เมษายน 2553

32. ..ณรงค์ฤทธิ์ สาละ(ยศเดิมพลทหาร) ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก ใกล้อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ดอนเมือง เสียชีวิตจากบาดแผลที่ศีรษะถูกยิงขมับซ้าย (ศาลสั่งคดีชันสูตร ถูกระสุนปืนความเร็วสูง ซึ่งยิงจากอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ทหารที่กำลังปฎิบัติหน้าที่)

33. ... กานต์ณุพัฒน์ เลิศจันทร์เพ็ญ อายุ : 38 ปี ตำรวจ เสียชีวิต จากบาดแผลบริเวณท้องด้านขวาต่ำจากสะดือ กระดูกเชิงกรานแตก เส้นเลือดใหญ่ขาซ้ายขาด พบหัวกระสุนปืนหัวแหลมทำด้วยทองแดงหุ้มตะกั่วฝังอยู่ เสียชีวิตที่ โรงพยาบาลจุฬาฯ

วันที่ 8 พฤษภาคม 2553

34. ...วิทยา พรมสารี อายุ : 35 ปี ตำรวจ ด่านตรวจบริเวณประตู 4 สวนลุมพินี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหน้าอกด้านขวา เสียชีวิตที่โรงพยาบาล จุฬาฯ ขณะกำลังผ่าตัด

วันที่ 13 พฤษภาคม 2553

ถนนพระราม 4

35. พล.. ขัตติยะ สวัสดิผล อายุ 58 ปี อาชีพ ทหาร ถูกยิงที่ศรีษะเหนือใบหูข้างขวา ทะลุศรีษะด้านหลังทางซ้าย เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายเนื้อสมอง

36. นายชาติชาย ชาเหลา อายุ 25 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ เป็นผู้ชุมนุมรายหนึ่งมีภูมิลําเนาจากจังหวัดสุรินทร์ เขาถูกยิงด้วยปืนสงครามมีบาดแผลทีขมับขวา ขนาด 0.5 ซม. และบาดแผลเปิดบริเวณท้ายทอยขนาด 5 ซม.38 ชาติชายเสียชีวิตที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เวลา23.37 .โดยหนังสือรับรองการตายระบุว่าเขาเสียชีวิตเนื่องจากสมองฉีกขาดอย่างหนัก ร่วมกับกะโหลกแตกเป็นเสี่ยงๆ จากการถูกกระสุนปืนที่ศีรษะ (ศาลสั่งคดีชันสูตร ตายด้วยกระสุนจากกลุ่มทหาร)

วันที่ 14 พฤษภาคม 2553

37. นางสาวละอองดาว กลมกล่อม อายุ : 44 ปี มีเหตุปะทะกับทหารเหตุการณ์ชุลมุนทำให้ น..ละอองดาววิ่งหนีและเกิดเป็นลมล้มหมดสติไป สาเหตุการเสียชีวิตจากติดเชื้อ เยื่อหุ้มสมองเส้นเลือดในสมองแตก เสียชีวิตวันที่ 2 .. 2553

ถนนพระราม 4

38. นายประจวบ ศิลาพสันธ์ อายุ 44 ปี อาชีพ รับจ้าง ถูกยิงหน้าอกขวา ทะลุหลังเสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทะลุหัวใจและตับเสียโลหิตปริมาณมากในร่างกาย (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบฝีมือใคร)

39. นายปิยะพงษ์ กิติวงศ์ อายุ 32 ปี อาชีพ รับจ้าง ถูกยิงบริเวณเหนือรมิ ฝีปากด้านซ้ายทะลุหลังใบหูขวา เสียชีวิตจากบาดแผล กระสุนปืนทำลายเส้นเลือดแดงใหญ่บริเวณคอ (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบฝีมือใคร)

40. นายสมศักดิ์ ศลิารักษ์อายุ 28 ปี อาชีพ รับจ้าง ถูกยิงบริเวณศรีษะด้านหลังข้างซ้าย ทะลุศรีษะด้านบน เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบฝีมือใคร)

41. นายฐานุทัศน์ อัศวสิริมั่นคงอายุ 54 ปี อาชีพค้าขาย ถูกยิง2 นัด เข้าที่กลางหลังและสะบักซ้าย จนเป็นอัมพาต ต่อมา เสียชีวิตจากระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว ร่วมกับพบหัวกระสุนบริเวณสะบักขวา (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ได้ตายโดยตรงจากการถูกยิง)

42. นายอินแปลง เทศวงค์ อายุ 34 ปี อาชีพ ขับรถแท็กซี่ ถูกยิงที่หน้าอกซ้ายทะลุหลังเสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนลูกโดดบริเวณหน้าอกซ้ายทะลุเข้าช่องอก ทำให้ปอดฉีกขาด และมีเลือดออกในช่องอกจำนวนมาก

43. นายบุญมี เริ่มสุข อายุ 70 ปี อาชีพ ค้าขาย กระสุนยิงเข้าที่ช่องท้อง ลําไส้ทะลุหลายจุด เสียชีวิตจากติดเชื้อในกระแสเลือด ที่เกิดจากบาดแผลถูกยิงบริเวณช่องท้อง (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบผู้ลงมือกระทำ)

44. นายเสน่ห์ นิลเหลืองอายุ 48 ปี อาชีพ ขับรถแท็กซี่ ถูกยิงที่หน้าอกซ้ายทะลุหลังด้านขวา เสียชีวิตจากบาดแผลกระสุนปืนความเร็วสูง ทะลุเข้าช่องอก ทำให้เส้นเลือดแดงใหญ่และปอดฉีกขาด

ถนนราชปรารภ

45. นายชัยยันต์ วรรณจักร อายุ 20 ปี อาชีพ รับจ้าง ถูกยิงบริเวณเอวด้านหลังข้างซ้าย ทะลุอุ อกชายโครงขวา ทำให้เส้นเลือดแดงใหญ่ภายในช่องท้องฉีกขาด ปากซอยทางเข้าโรงแรมศิริสุข ฝั่งตรงข้ามคอนโดชีวาทัย

46. นายทิพเนตร เจียมพล อายุ 32 ปี อาชีพ ค้าขาย ถูกยิงโดยกระสุนลูกโดดทำให้ปอดฉีกขาด มีบาดแผลกระสุนปืนที่หัวไหล่ บริเวศสามเหลี่ยมดินแดง เสียชีวิตในวันที่ 15 .. 53 ที่โรงพยาบาลราชวิถี

47. นายบุญทิ้ง ปานศิลา อายุ 25 ปี อาชีพ พนักงานเก็บค่าจอดรถและเป็นอาสาสม้ครหน่วยแพทยกู้ชีวิตวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์กู้ชีวิตวชิรพยาบาล มีบาดแผลที่คอด้านซ้ายทำให้เส้นเลือดแดง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หน้าร้านไพศาล เอนจิเนียริ่ง ข้างปั๊มเชลล์ ถนนราชปรารภ

48. นายกิตติพันธ์ ขันทอง (เดิมชื่อเกรียงไกร ขันทอง เปลี่ยนเมื่อวันที่ 1 .. 53) อายุ : 25 ปี อาชีพ : รับจ้าง มีบาดแผลกระสุนปืนทำให้ขั้วยึดลำไส้ฉีกขาด เลือดออกในช่องท้องปริมาณมากจนเสียชีวิตที่หน้าร้านไพศาล เอนจิเนียริ่ง ข้างปั๊มเชลล์ราชปรารภ จุดเดียวกับนายบุญทิ้ง ปานศิลา

49. นายสรไกร ศรีเมืองปุน อายุ 34 ปี อาชีพรับจ้าง จ.ศรีสะเกษ ถูกยิง คาดว่าเป็นฟุตบาทปากซอยรางน้ำฝั่งตรงข้ามกับปั๊มเอซโซ โดยมีบาดแผลกระสุนปืนความเร็วสูงที่ศีรษะ ทำให้สมองฉีกขาด เสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล

50. นายเหิน อ่อนสา อายุ 40 ปี อาชีพรับจ้าง จากเขตคันนายาว กทม. ถูกยิงที่ปากซอยราชปรารภ 16 บาดแผลกระสุนปืนลูกโดดเข้าบริเวณขาหนีบข้างซ้ายขนาด 0.5×0.5ซม.ทำให้ เส้นเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด และกระดูกต้นขาซ้ายหัก พบบาดแผลกระสุนปืนลูกโดดทางออกบริเวณด้านข้างของสะโพก ขนาด 1.2×0.8 ซม. ทิศทางจากหน้าไปหลัง ขวาไปซ้าย เสียชีวิตที่ โรงพยาบาลราชวิถี

51. นายธันวา วงศ์ศิริ อายุ 26 ปี อาชีพ ค้าขาย จากจังหวัดหนองบัวลำภู ถูกยิงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ถนนราชปรารภ จากบาดแผลถูกกระสุนที่ใบหน้าข้างซ้าย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

52. ..สัญธะนา สรรพศรี อายุ 32 ปี อาชีพ ล่าม จากจังหวัดอุดรธานี ถูกยิงบริเวณ ซ.หมอเหล็ง ถนนนิคมมักกะสันเส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอฉีกขาด เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล

53. นายมนูญ ท่าลาด อายุ 44 ปี เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จากจังหวัดหนองคาย ถูกยิงที่แยกจตุรทิศบาดแผลกระสุนปืนลูกโดดบริเวณศีรษะสมองฉีกขาด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

54. นายพัน คำกอง อายุ 42 ปี ขับแท็กซี่ จากจังหวัดสมุทรสาคร ถูกยิงบริเวณคอนโดไอดีโอใกล้แยกราชปรารภใต้แอร์พอร์ตลิงค์ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจากบาดแผลกระสุนปืนความเร็วสูงบริเวณต้นแขนทำให้เส้นเลือดแดงฉีกขาด (ศาลสั่งคดีชันสูตร เสียชีวิตจากทหาร)

55. .. คุณากร ศรีสุวรรณ อายุ 14 ปี นักเรียน เป็นเด็กจากบ้านเด็กกำพร้าอัซซัยติยะฯ เขตหนองจอก กทม. เสียชีวิตบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ราชปรารภ จากกระสุนปืนความเร็วสูงบริเวณหลัง (ศาลสั่งคดีชันสูตร เสียชีวิตจากทหาร)

วันที่ 15 พฤษภาคม 2553

ถนนพระราม 4

56. นายวารินทร์ วงศ์สนิท อายุ 28 ปี รับจ้างและเป็นอาสาสมัครศูนย์นเรนทร จากจังหวัดสมุทรปราการถูกยิงหน้าปั๊ม ปตท. บ่อนไก่ พระราม 4บาดแผลกระสุนปืนลูกโดดบริเวณหลังส่วนกลางด้านขวา บาดแผลทรงกลมขนาด 0.3 ซม. แนวบาดแผลทะลุผ่านกระดูกซี่โครงที่ 10 ข้างขวาผ่านปอดข้างขวากลีบล่าง ผ่านหัวใจและตับ พบบาดแผลกระสุนปืนลูกโดดทางออกบริเวณกลางอกส่วนล่าง วิถีบาดแผลจากบนลงล่าง ขวาไปซ้าย หลังไปหน้า เสียชีวิตที่โรงพยาบาลราชวิถี

57. นายพรสวรรค์ นาคะไชย อายุ 23 ปี พนักงานโรงแรมกรุงเทพโฮเต็ล จากจังหวัดร้อยเอ็ด ถูกยิงที่ปากซอยงามดูพลี ถ.พระราม 4 ที่ช่องท้องขวาและช่วงหน้าอกซ้าย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเลิดสิน (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ยิง)

58. นายมานะ แสนประเสริฐศรี อายุ 22 ปี อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง จากเขตยานนาวา กทม. ถูกยิงที่ปากซอยงามดูพลี หน้าธนาคารกสิกรไทย ถนนพระราม 4 บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง บาดแผลที่1 ลักษณะทางเข้าทะลุกะโหลกด้านหลังซ้าย ผ่านสมองใหญ่ซีกซ้ายและขวา ทะลุเบ้าตา ลูกตาด้านขวาแตก ทะลุออกที่หางตาขวา บริเวณบาดแผลที่2 พบเศษโลหะคล้ายตะกั่วเป็นเศษผงเล็กๆ ติดอยู่บางส่วนตามทางผ่านบาดแผล ทิศทางจากซ้ายไปขวา หลังไปหน้า บนลงล่างเล็กน้อย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ยิง)

59. นายเกรียงไกร เลื่อนไธสง อายุ 25 ปี ขับแท็กซี่ จากขอนแก่น ถูกยิงที่บริเวณหน้าร้านทองฉัตรทองเยาวราช บริเวณชุมชนบ่อนไก่ ถ.พระราม4ถูกยิงเส้นเลือดแดงใหญ่ทะลุ เสียชีวิต ที่โรงพยาบาลเลิดสิน

60. นายวงศกร แปลงศรี อายุ 40 ปี อาชีพรับจ้าง จากจังหวัดศรีสะเกษ ถูกยิงที่หน้าปากซอยสวนพลูกระสุนปืนทำลายขั้วปอดและปอดขวา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ถนนราชปรารภ

61. นายสมาพันธ์ ศรีเทพ อายุ 17 ปี นักเรียน จากจังหวัดนนทบุรี ถูกยิงที่หน้าร้านไท่หยางถัดทางทิศใต้หน้าร้านขายเสื้อสูท ใกล้ ซอยราชปรารภ 18 บาดแผลกระสุนลูกโดดบริเวณศีรษะทำให้เนื้อสมองฉีกขาด สียชีวิตในที่เกิดเหตุ

62. นายสุภชีพ จุลทัศน์ อายุ 36 ปี ขับแท็กซี่ จากจังหวัดศรีสะเกษ ถูกยิงที่หน้าร้านกันสาดติดกับร้านไท่หยาง บาดแผลกระสุนปืนลูกโดดความเร็วสูงที่ศีรษะ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

63. นายอำพล ชื่นสี อายุ 25 ปี สันนิษฐานว่า ถูกยิงบริเวณหน้าทางเข้าคอนโด เดอะคอมพลีท ถนนรางน้ำ หรือหน้าร้านกันสาดจุดเดียวกับนายสุภชีพ (เนื่องจากยังระบุตัวตนของนายอำพล ชื่นสีไม่ได้ ) กระสุนเข้าช่องท้องผ่านปอด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

64. นายชาญณรงค์ พลศรีลา อายุ 32 ปี ขับแท็กซี่ จากเขตสายไหม กทม. ถูกยิงที่ ปั้มเชลล์ ถนนราชปรารภบาดแผลกระสุนปืนที่หน้าท้องและแขน มีกระสุนฝังในที่หน้าท้องด้านขวา ทำให้อวัยวะด้านใน – ลำไส้เล็กฉีกขาดและแขนหัก เป็นแผลหลายตำแหน่ง เสียชีวิตขณะนำส่งที่โรงพยาบาลพญาไท (ศาลสั่งคดีชันสูตร เสียชีวิตจากทหาร)

65. นายธนากร ปิยะผลดิเรก อายุ 50 ปี อาชีพค้าขาย จาก เขตบางพลัด กทม. ถูกยิงที่คอนโด เดอะคอมพลีท ชั้น 27 ซอยรางน้ำ บาดแผลกระสุนปืนที่แก้มข้างขวาทะลุออกคอด้านซ้ายตัดเส้นเลือดคอ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

66. นายอุทัย อรอินทร์ อายุ 39 ปี อาชีพ ค้าขาย จากเขตทุ่งครุ กทม. ถูกยิงที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ถ.ราชปรารภ เยื้องบริษัทวิริยะประกันภัย บาดแผลกระสุนปืนลูกโดดบริเวณหลังทะลุเข้าหัวใจ บาดแผลกระสุนปืนลูกโดด 1 แห่ง บริเวณกลางหลังเยื้องมาด้านขวาเล็กน้อยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.2 ซม. ทิศทางจากหลังไปหน้า จากส่วนล่างขึ้นส่วนบนของร่างกาย พบบาดแผลทางออกบริเวณหน้าอกส่วนบนเยื้องมาทางด้านซ้าย ขนาด 0.5×0.7 ซม. เสียชีวิตที่โรงพยาบาลรามาธิบดี

วันที่ 16 พฤษภาคม 53

ถนนพระราม 4

67. นายสมชาย พระสุพรรณ อายุ 43 ปี ช่างซ่อมรองเท้า จากจังหวัดยโสธร ถูกยิงที่เชิงสะพานลอยคนข้ามข้าง ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาลุมพินี ถ.พระราม 4 บาดแผลกระสุนปืนเข้าที่ศีรษะด้านหน้าทำลายสมองรุนแรง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ยิง)

68. นายสุพรรณ์ ทุมทอง อายุ 49 ปี เจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยโรงงานยาสูบ จากจังหวัดศรีสะเกษ ถูกยิงที่ย่านชุมชนย่านบ่อนไก่ บาดแผลกระสุนปืนที่ยอดศีรษะทะลุกะโหลกตัดเนื้อสมอง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

69. นายเฉลียว ดีรื่นรัมย์ อายุ 27 ปี อาชีพรับจ้าง จากจังหวัดบุรีรัมย์ เสียชีวิตที่ชุมชนย่านบ่อนไก่ จากบาดแผลกระสุนปืนทำให้ตับฉีกขาดอย่างรุนแรง (ใต้ราวนมขวา)

70. นายวุฒิชัย วราห์คัม อายุ 22 ปี อาชีพ รับจ้าง จากจังหวัดอำนาจเจริญ ถูกยิงบริเวณหน้าตู้เติมเงินโทรศัพท์ ระหว่าง ร้านค้าสะดวกซื้อ 7-11กับ ห้างทองฉัตรทองเยาวราช พระราม 4 บาดแผลกระสุนปืนลูกโดดเข้าบริเวณกลางหลัง ผ่านกระสุนสันหลังส่วนเอวข้อบนสุดและไขสันหลังและทะลุผ่านขั้วยึดลำไส้และตับกลีบขวาส่วนล่าง กระบังลมด้านขวาส่วนล่างทะลุออกกลางลำตัว เสียชีวิตที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท

71. นายประจวบ ประจวบสุข อายุ 42 ปี อาชีพรับจ้าง จากจังหวัดสุรินทร์ ถูกยิงใต้ทางด่วนพระราม (ถนนเชื้อเพลิง) เสียโลหิตมากจากบาดแผลกระสุนปืนทะลุหลอดเลือดแดงใหญ่และปอด พบบาดแผลกระสุนปืนทางเข้าที่อกซ้ายขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.4 ซม. ทะลุปอดซ้ายกลีบบน ทะลุเข้าช่องหุ้มหัวใจ ทะลุหลอดเลือดแดงใหญ่ปอดและขั้วหลอดเลือดแดงใหญ่ ทะลุปอดขวากลีบล่างส่วนบน ทะลุออกช่องอกขวาผ่านช่องกระดูกซี่โครงขวา ทะลุกระดูกสะบักขวา กระสุนฝังบริเวณใต้กระดูกสะบักขวา ทิศทางจากหน้าไปหลัง ซ้ายไปขวา บนลงล่างเล็กน้อย เสียชีวิต ที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ยิง)

71. นายเกียรติคุณ ฉัตร์วีระสกุล อายุ 25 ปี ขับมอร์เตอร์ไซด์รับจ้าง จากจังหวัดสมุทรปราการ ถูกยิงที่ใต้ทางด่วนพระราม4 (ถนนเชื้อเพลิง) เสียโลหิตจำนวนมากจากบาดแผลกระสุนปืนผ่านหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องอก บาดแผลกระสุนปืนทางเข้าที่ใต้สะบักด้านซ้าย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5 ซม.วิถีกระสุนผ่านเข้าช่องปอดซ้าย เส้นเลือดแดงใหญ่และหัวใจ ไม่พบหัวกระสุนปืน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจริญกรุงประชารักษ์ (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ยิง)

72. นายสมัย ทัดแก้ว อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จากจังหวัดศรีสะเกษ ถูกยิงที่ทางเท้าหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาลุมพินี สันนิษฐานเบื้องต้นจากโลหิตติดเชื้อร่วมกับประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทจากบาดแผลกระสุนปืนเข้าที่ด้านหลังลำไส้ใหญ่ทะลุไขสันหลังได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตวันที่ 31 ..53 เวลา 03.00 . โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท

73. นายสุพจน์ ยะทิมา อายุ 37 ปี อาชีพ : รับจ้าง จากจังหวัดพิษณุโลก ถูกยิงที่หลังสวนลุมพินี บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

17 พฤษภาคม 2553

74. ... พงศ์ชลิต ทิพยานนทกาญจน์อายุ : 31 ปี อาชีพ : ทหารอากาศ สังกัดหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ถนนสีลมศาลาแดง ถูกยิงที่ศีรษะ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ (ศาลสั่งคดีชันสูตร ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดใช้อาวุธปืนยิง)

75. นายสมพาน หลวงชม อายุ 35 ปี อาชีพ : รับจ้าง จากจังหวัดสุรินทร์ ถูกยิงที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ถนนราชปรารภ บาดแผลกระสุนปืนลูกโดดบริเวณใบหน้าทะลุผ่านคอและช่องอกข้างขวาสันนิษฐานว่าเกิดจากปืนความเร็วสูง รายละเอียดพบบาดแผลกระสุนปืนลูกโดดทางเข้าบริเวณจมูกด้านซ้าย เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.3 ซม. ทิศทางจากซ้ายไปขวา บนลงล่าง หลังไปหน้า ทะลุผ่านกระดูกขากรรไกรซีกขวา เนื้อเยื้อคอ ทะลุผ่านของล่างกระดูกซีกโครงซีกที่2ขวาด้านหลัง เข้าทรวงอกข้างขวา พบหัวกระสุนปืนชนิดมีทองแดงหุ้มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5 ซม.ค้างในช่องอกขวา เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

76. นายเยื้อน โพธิ์ทองคำ อายุ 60 ปี จากเขตดินแดง กทม. ถูกยิงที่ปากซอยรางน้ำ บาดแผลกระสุนลูกโดดทะลุผ่านลำไส้ใหญ่ ถูกยิงบริเวณสะโพกซ้าย โดนลำไส้เหนือรูทวาร และได้รับบาดเจ็บบริเวณทางเดินปัสสาวะและอัณฑะ หลังผ่าตัดมีภาวะแทรกซ้อนติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิตวันที่ 21 .. 53 เวลา 6.15 . ที่โรงพยาบาลราชวิถี 2

18 พฤษภาคม 2553

77. นายมูฮัมหมัด อารี (ออง ลวิน ชาวพม่า) อายุ 21 ปี อาชีพรับจ้าง อยู่เขตห้วยขวาง กทม. ถูกยิงที่สามเหลี่ยมดินแดง บาดแผลกระสุนปืนที่หน้าอกเข้าช่องอกทะลุด้านหลัง เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

19 พฤษภาคม 2553

ถนนราชปรารภ

78. นางประจวบ เจริญทิม อายุ 49 ปี อาชีพเก็บขยะ จากจังหวัดพิจิตร ถูกยิงที่หน้าป้อมตำรวจสามเหลี่ยมดินแดง ถูกยิงเข้าบริเวณขาซ้ายทะลุขาขวา กระสุนปืนถูกเส้นเลือดแดงขาด ทำให้เสียเลือดมากจนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

79. นายปรัชญา แซ่โค้ว อายุ 21 ปี อาชีพรับจ้าง จากเขตจอมทอง กทม. ถูกยิงที่ราชปรารภ บาดแผลกระสุนปืนทำลายตับ หัวใจ โดยมีบาดแผลกลุ่มที่ 1 ทะลุกล้ามเนื้อหลังตัดกระดูกซี่โครงด้านขวาหลังที่10-12 ทะลุตับ ไตขวา ขั้วลำไส้ กำบังลม หัวใจ พบโลหะทรงกลมฝังตัวบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอวท่อนที่ 1 และกล้ามเนื้อทรวงอกด้านซ้าย ทิศทางจากหลังไปหน้า ขวาไปซ้าย ล่างขึ้นบน ถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซอง 1 นัด เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล

80. ..วาสินี เทพปาน อายุ 39 ปี อาชีพรับจ้าง จากจังหวัดสงขลา ถูกยิงที่ ซ. พหลโยธิน 2/1 ปอดและตับถูกทำลายจากบาดแผลกระสุนปืน เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ

ถนนราชดำริ

81. นายถวิล คำมูล อายุ 38 ปี อาชีพรับจ้าง จากจังหวัดขอนแก่น ถูกยิงบริเวณป้ายแท็กซี่อัจฉริยะข้างลานจอดรถของสวนลุมพินี ถนนราชดำริ บาดแผลกระสุนปืนลูกโดดที่ศีรษะทะลุเข้ากะโหลกศีรษะทำให้เนื้อสมองฉีกขาดมาก สันนิษฐานว่าเกิดจากกระสุนปืนความเร็วสูง รายละเอียดพบบาดแผลกระสุนปืนลูกโดดที่ศีรษะส่วนหน้าข้างซ้าย เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5ซม.ทิศทางจากหน้าไปหลัง ส่วนบนลงส่วนล่างของศีรษะ เฉียงจากขวาไปซ้ายเล็กน้อย ทะลุผ่านกะโหลกศีรษะและเนื้อสมองด้านซ้าย พบบาดแผลทางออกรูปแฉกขนาด9×4ซม.ที่ศีรษะด้านหลังข้างซ้าย พบบาดแผลกระสุนปืนลูกโดดทางเข้าบริเวณขาขวาขนาดเส้นผ่าศูนยกลาง0.3ซม. ทิศทางจากหน้าไปหลัง ส่วนบนลงส่วนล่าง พบบาดแผลทางออกใต้ข้อพับเข่าขวาขนาด1×1ซม. .เสียชีวิตที่แยกสารสิน ถนนราชดำริ (ศาลสั่งคดีชันสูตร วิถีกระสุนจากด้านจนท.ทหาร)

82. นายธนโชติ ชุ่มเย็น อายุ 34 ปี อาชีพรับจ้าง จากจังหวัดชัยนาท ถูกยิงที่ถนนราชดำริ บาดแผลกระสุนปืนทะลุไตซ้ายและเส้นเลือดใหญ่ เสียโลหิตในช่องท้องปริมาณมาก รายละเอียดบาดแผลที่1ลักษณะทางเข้า ทะลุช่องซี่โครงที่10 ด้านซ้าย ทะลุเข้ช่องท้อง ถูกไตซ้ายฉีกขาด เส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องฉีกขาด ขั้วลำไส้ฉีกขาด พบชิ้นส่วนคล้ายกระสุนปืน โลหะหุ้มทองแดงรูปเรียวแหลม 1 ชิ้น ค้างอยู่ในช่องท้อง ทิศทางจากหลังไปหน้า ซ้ายไปขวา บนลงล่างเล็กน้อย เสียชีวิตที่รงพยาบาลตำรวจ

83. นายนรินทร์ ศรีชมภู อายุ 27 ปี อาชีพรับจ้าง จากจังหวัดอุบลราชธานี ถูกยิงที่หน้าบ้านราชดำริ ถนนราชดำริ บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง เสียชีวิตที่โรงพยาบาลตำรวจ (ศาลสั่งคดีชันสูตร กระสุนมาจากฝั่งทหาร)

84. .. อนุสิทธิ์ จันทร์แสนตอ อายุ 44 ปี อาชีพทหาร ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณช่องท้องจนไส้ทะลัก ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาลจุฬาฯ จุดที่เกิดเหตุข้างสวนลุมพินี

85. ชายไม่ทราบชื่อ ถูกยิงในเต็นท์ใกล้กับป้ายแท็กซี่ข้างรั้วสวนลุมพินี ถนนราชดำริ ถูกกระสุนปืนยิงที่ศีรษะ ทิศทางจากหน้าไปหลัง ชนิดของกระสุนปืน เป็นกระสุนปืนลูกโดดความเร็วสูง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ [ศาลสั่งคดีชันสูตร เสียชีวิตในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทหารเคลื่อนกำลังพลเข้ามาควบคุมพื้นที่จากแยกศาลาแดงมุ่งหน้าถนนราชดำริ โดยยังไม่ทราบว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำ)

86. ฟาบิโอ โปเลงกิ (Fabio Polenghi) อายุ 48 ปี ช่างภาพอิสระ ชาวอิตาลี ถูกยิงตรงเกาะกลางถนนใต้รางรถไฟฟ้าราชดำริฝั่งตรงข้ามตึกบางกอกเคเบิล บาดแผลกระสุนปืนทะลุหัวใจ ปอดตับ เสียโลหิตปริมาณมาก บาดแผลที่ 1 ลักษณะทางเข้าทะลุหลังด้านขวา ผ่านช่องซี่โครงด้านหลังขวา ทะลุปอดขวากลีบล่าง เฉียดกำบังลมและเนื้อตับฉีกขาด ทะลุเยื้อหุ้มหัวใจ และกล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาด ทิศทางจากหลังไปหน้า ขวาไปซ้าย ล่างขึ้นบนเล็กน้อย (ศาลสั่งคดีชันสูตร วิถีกระสุนปืนยิงมาจากด้านเจ้าพนักงานที่กำลังเคลื่อนเข้ามาควบคุมพื้นที่จากทางแยกศาลาแดงมุ่งหน้าไปแยกราชดำริ โดยยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ลงมือกระทำ)

วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร (ศาลสั่งคดีชันสูตร เสียชีวิตจากทหาร)

87. นายมงคล เข็มทอง อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จากเขตปทุมวัน กทม. บริเวณประตูทางออกวัดปทุมวนามรามบาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด ตับ หัวใจ ถูกยิงในขณะที่อยู่ในวัดปทุมวนาราม จากกระสุนปืนขนาด .223 (หรือ 5.56 มม. ซึ่งเป็นกระสุนที่ใช้กับปืนเอ็ม 16 และปืนทาโวร์ที่ใช้ในราชการทหาร) หัวเขียว

88. นายสุวัน ศรีรักษา อายุ 31 ปี เกษตรกร จากจังหวัดอุดรธานี ถูกยิงที่หน้าห้องน้ำอาคารเอนกประสงค์130 ปี วัดปทุมวนาราม มีสาเหตุการตายเนื่องจากบาดแผลกระสุนปืนทะลุปอดและหัวใจโดยมีบาดแผลทั้งหมด 11 แห่ง ซึ่งเป็นแนวทางผ่านของกระสุนปืน จำนวน 4 นัด กระสุนปืนขนาด .223 (หรือ 5.56 มม.ซึ่งเป็นกระสุนที่ใช้กับปืนเอ็ม 16 และปืนทาโวร์ที่ใช้ในราชการทหาร) หัวเขียว

89. .. กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี พยาบาลอาสา จากเขตลาดกระบัง กทม. เสียชีวิตที่วัดปทุมวนาราม บาดแผลกระสุนปืน 11 แผล บาดแผลที่ 1 ทะลุกล้ามเนื้อด้านขวาขึ้นมาด้านบน ผ่านกลามเนื้อคอด้านหลังทะลุฐานกะโหลกฯ กระสุนปืนทำลายสมอง พบชิ้นส่วนโลหะคล้ายกระสุนปืนหุ้มทองแดง ค้างอยู่ด้านในกะโหลกศีรษะด้านขวา 1 ชิ้น กระสุนปืนขนาด .223 หัวเขียว (5.56 มม.)

90. นายอัครเดช ขันแก้ว อายุ 22 ปี อาชีพรับจ้าง จากจังหวัดกาฬสินธุ์ เสียชีวิตที่วัดปทุมวนาราม จากบาดแผลกระสุนปืนสองนัด ระยะเกินเอื้อมมือ, กระสุนทะลุช่องปาก, พบเศษตะกั่วในช่องปาก ฐานกะโหลกศีรษะ และกระดูกก้นกบ, เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก และเนื้อสมองช้ำจากแรงกระแทก, มีรอยช้ำใต้ศีรษะบริเวณท้ายทอย กระสุนปืนขนาด .223 หัวเขียว (5.56 มม.)

91. นายอัฐชัย ชุมจันทร์ อายุ 28 ปี บัณฑิตคณะนิติศาสตรมหาวิทยาลัยรามคำแหง จากจังหวัดร้อยเอ็ด เสียชีวิตที่หนาวัดปทุมวนาราม บาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด ทิศทางหลังไปหน้าแนวตรง พบบาดแผลทะลุบริเวณหลังด้านซ้ายทะลุทรวงอก กระสุนตัดกระดูกซี่โครงด้านซ้ายซี่ที่ 3 ทะลุปอด เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม

92. นายรพ สุขสถิตย์ อายุ 66 ปี พนักงานขับรถรับจ้างในสนามบิน เขตหลักสี่ กทม. สันนิษฐานว่าบริเวณเดี่ยวกับกับนายมงคลเข็มทอง บาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด,ตับ ถูกยิงด้วยกระสุน 1 นัด ทำลายปอด กระบังลมตับ ไตขวา ลำไส้, กระสุนปืนทำลายปอดตับ, กระสุนปืนขนาด .223 หัวเขียว (5.56 มม.)

 

สถานที่อื่น ๆ

93. นายกิตติพงษ์ สมสุข อายุ 20 ปี อาชีพรับจ้าง จากจังหวัดศรีสะเกษ เสียชีวิตที่ชั้น 4 โซนซี ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สาเหตุจากการขาดอากาศหายใจ (สมองบวมน้า, ม้ามตับไตคั่งเลือด, ไม่พบบาดแผลภายนอก)

94. นายทรงศักดิ์ ศรีหนองบัว อายุ 33 ปี ที่ขอนแก่น หน้าบ้านพัก ส.. ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ จังหวัดขอนแก่น ถูกยิงด้วยปืนลูกซอง บาดแผลกระสุนปืนที่หน้าอก เสียชีวิตที่โรงพยาบาลขอนแก่น

95. นายเพิน วงศ์มา อายุ 40 ปี อาชีพค้าขาย จ. อุดรธานี เหตุการณ์ที่ศาลากลาง จ.อุดรธานี ถูกยิงที่ต้นแขนตัดผ่านหัวใจ ที่ขาทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 2 นัด และที่ท้อง 2 นัดทะลุออกด้านหลัง เข้ารักษาพยาบาลกระทั่งระบบหัวใจล้มเหลว (หนังสือรับรองการตายระบุระบบหายใจล้มเหลว) เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอุดรธานี ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2553 (หัวกระสุนแบบทองเหลือง ขนาด 5.6 ..)

96. นายอภิชาติ ระชีวะ อายุ 36 ปี จังหวัดอุดรธานี เหตุการณ์ที่ทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี ถูกกระสุนปืนทำลายตับ กระเพาะอาหารม้าม ลำไส้เล็ก เสียชีวิตวันที่ 9 มิ..53 เวลา 06.42 . ที่โรงพยาบาลอุดรธานี

ที่มา:

ข้อมูลจากเปิดรายชื่อคนตาย ..35 และ ..53 – 7 ปี ความยุติธรรมที่ไม่ไปไหนhttps://prachatai.com/journal/2017/05/71545

ศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม กรณี เม..-..53 (ศปช.)

รวมภาพเหตุการณ์ http://www.pic2010.org/gallery-page/

 

ผู้เสียชีวิตจากการกวาดล้างหลังสลายการชุมนุม 2553  

นอกจากผู้เสียชีวิตในช่วงการชุมนุม 91 ศพแล้ว หลังยุติการชุมนุม คนเสื้อแดงถูกสังหารเพิ่มอีก 5 ราย คือ

  1. (97) ศักรินทร์ กองแก้ว (อ้วน บัวใหญ่) เสื้อแดงโคราช ที่เคยมีบทบาทไปยกป้ายประท้วงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์

  2. (98) สวาท ดวงมณี การ์ดเสื้อแดงระยอง ถูกยิงเสียชีวิต

  3. (99) นายธนพงศ์ แป้นมี การ์ดของนาย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถูกรถกระบะพุ่งชนเสียชีวิต

  4. (100) กฤษดา กล้าหาญ (น้องเจมส์ การ์ด DJ อ้อ) เชียงใหม่ ถูกกระหน่ำยิงด้วยปืน M 16

  5. (101) น้อย บรรจง (แดง คชสาร) เชียงใหม่ ถูกกระหน่ำยิงด้วยอาวุธปืนร่วมร้อยนัด

บางคนบอกว่ามีหลายคนที่ถูกสังหารหลังปราบปราบเสื้อแดงที่ไม่สามารถระบุได้

 

 

+++++++++++++++++

 

 

16 พฤษภาคม 2553 ACT4DEM ได้เปิดรณรงค์ร่วมลงชื่อเรียกร้องให้เลขาธิการสหประชาชาติ ในขณะนั้น ฯพณฯ บันคีมูน และผู้นํารัฐบาลทุกประเทศ โปรดดําเนินมาตรการให้มีการหยุดสังหารประชาชนในประเทศไทย

โปรดช่วยประเทศไทยด่วน

เรียน ฯพณฯ บันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ และผู้นํารัฐบาลทุกประเทศ โปรดดําเนินมาตรการให้มีการหยุดสังหารประชาชนในประเทศไทย

พัฒนาการประชาธิปไตยของประเทศไทยถูกเหยียบย่ําอีกครั้งด้วยรัฐประหาร เมื่อปี 2549 เพื่อกําจัดรัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นการทํารัฐประหาร/ปราบปรามประชาชนครั้งที่ 26 ในประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2475

ภาพลักษณ์ทางการเมืองของประเทศไทยตกต่ําถึงขีดสุดในปี 2551 เมื่อการประท้วงของคนเสื้อเหลืองที่ไม่ได้ถูก ขัดขวางแต่ประการใด สามารถเคลื่อนเข้าไปปิดสนามบินนานาชาติของประเทศไทย ซึ่งเป็นการประท้วงที่เปิดทางให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ก้าวขึ้นสู่ตําแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนธันวาคม 2551

ประชาชนคนยากคนจนในประเทศไทยทั้งคนจนเมืองและคนจนชนบทหลายสิบล้านคนต่างกไ็ ม่สามารถทนนิ่งเฉยต่อ ระบบสองมาตรฐานในสังคมไทยได้อีกต่อไป จึงได้ลุกขึ้นมาประท้วงเพื่อให้เกิดรัฐสภาเป็นตัวแทนของพวกเขา ตามครรลอง ประชาธิปไตยที่แท้จริง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2553 คนเสื้อแดงปกคลุมท้องถนนหลายแห่งในกรุงเทพ พวกเขาลุกขึ้นมาเรียกร้อง ให้รัฐสภายุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธ์ยิ ุติธรรม

การปราบปรามประชาชนของกองกําลังทหารได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ที่มีทั้ง เด็กผู้หญิง และผู้ชาย จํานวนประมาณ 60 คน ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการถูกยิงที่ศีรษะ และอีกกว่า 1,500 คน ที่มีทั้งทีม พยาบาล นักข่าว และประชาชนทั่วไป ได้รับบาดเจ็บ(ส่วนใหญ่จากอาวุธ) ตัวเลขผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้งนี้เป็นผลจากการที่รัฐบาล ระดมกองกําลังทหาร 50,000 นาย และอนุญาตให้ทหาร ‘ป้องกันตัว’ ด้วยการยิงและสังหารประชาชนที่ลุกขึ้นมาประท้วง รัฐบาลท่ีไร้ความยุติธรรมและ ไม่มีธรรมาภิบาล

การกระทําของรัฐบาลไทยที่ประกาศอย่างเปิดเผยว่าอนุญาตให้ใช้กระสุนจริงกับประชาชน ยิงทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก ปู่ย่า ตายาย ยิงประชาชนทั้งครอบครัว ประชาชนที่มารวมตัวกันที่กรุงเทพฯ เพื่อแสดงความคับค้องใจและความไม่พอใจต่อรัฐบาล เป็นความป่าเถื่อนที่จะต้องถูกประณาม และเป็นอาชญากรรม ไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมือง จะซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม การใช้ กระสุนจริง ไม่มีทางและจะต้องไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้บนท้องถนนกรุงเทพ หรือที่ไหนก็ตาม

ชุมชนนานาชาติ ไม่ควรร่วมยืนเคียงข้างและเฝ้ามองรัฐบาลไทยทําการสังหารประชาชนของตัวเองอย่างเหี้ยมโหด ทําการเข่นฆ่าประชาชนในนามของคําว่า ‘เพื่อประชาธิปไตย’ และยิ่งไม่สามารถอ้างได้เลยว่า ‘เพื่อปกป้องสถาบัน’

ความรุนแรงบทท้องถนนกรุงเทพในวันนี้มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ณ ขณะนี้ประชาชนผู้กล้าหาญ หลายพันคน ติดอยู่ในวงล้อมของทหารร่วม 30,000 คน พวกเขาพร้อมจะสละชีวิต

ประชาสังคมโลกจะต้องประณามรัฐบาลอภิสิทธิที่อนุญาตให้ใช้กระสุนจริงต่อผปู้ ระท้วงฝ่ายตรงข้าม ผู้ประท้วงที่รัฐบาลจะไมส่ ามารถเอาชนะได้เลยในสนามการเลือกตั้ง

ในแผ่นดินแห่งรอยยิ้ม การคอรัปชั่นและภาวะการไร้ซึ่งความยุติธรรมได้ปรากฎเด่นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งเสียงดัง มากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน การอนุญาตให้ทหารปราบปรามประชาชน คนยากจนจากชนบท และในเมือง ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ไม่สามารถนํามาซึ่งการพัฒนาที่ยั่งยืนและความมั่นคงในอาเซียน แต่กลับจะบันทอนพัฒนาการด้านประชาธิปไตยในอาเซียน

พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกประณามการใช้กําลังทหารและกระสุนจริงเป็น เครื่องมือในการปราบปราม การประท้วงของคนยากคนจนที่ถูกกดขี่ ที่ต้องการนําเสนอปัญหาของพวกเขา

พวกเราเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติยุติความรุนแรงในประเทศไทย และเป็นองค์กรกลาง ในการนําทุกฝ่ายมาสู่โต๊ะเจรจา ดําเนินจัดการเลือกตั้งในประเทศไทยที่โปร่งใส และยุติธรรม รวมทั้งขอให้มี การตั้งทีมสอบสวนจากนานาชาติ เพ่ือสอบสวนกรณีการสังหารพลเรือนที่บริสุทธิ์โดยกองกําลังของทหารไทย

ขอแสดงความนับถือ

มีผู้ร่วมลงชื่อเป็นจำนวนมาก ภายในเวลา 2 วัน ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้มีคำสั่งระวังการเข้าถึง โดยมีผู้ร่วมลงชื่อภายในเวลา 2 วันจำนวนถึง 9,416 คน

 

ต่อไปนี้ เป็นข้อความบางส่วน ที่ผู้ร่วมลงชื่อได้เขียนเสนอไว้ เพื่อส่งถึงผู้นำโลก และเผด็จการไทย

“An an American attorney with an advanced degreee in international law, I urgently implore the Security Council to take all appropriate acton to help end the killing in Thailand and bring about fair elections.”

“The Goverment order military to kill people who disagree with them by saying “terrorists are among innocence people” but all death people are unarm.”

“Please help us, We don’t need more death, more blood, more tear. we don’t want to ruins the country..We only need to call for election…”

“I know that no one will be big because the dictator does not come out acceptable. But I want the UN. Came to help the Committee for the sake of children a woman to join the fight were so. Because of their mouth is still hungry.”

“โปรดช่วยหยุดการยิง การฆ่า ทําร้ายในทันที เราถูกอํานาจรัฐปิดหปู ิดตา และการ ริดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน พวกเราสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บร้ายแรงจากอาวุธ สงครามของรัฐบาลมากมาย เราปรารถนาให้ประเทศสงบโดยเร็วเพื่อการเลือกต้ัง ที่บริสุทธ์ิยุติธรรมในเร็วๆนี้”

“เห็นด้วยกับกลุ่มของท่านอย่างยิ่งเพื่อการหยุดยั้งการกระทําที่ป่าเถื่อนต่อคนไทยด้วยกัน”

“อยากให้ทางยูเอ็นเห็นใจชีวิตคนไทยที่ถูกฆ่าโดยกําลังฝ่ายทหารอยากเห็น บันคีมูนทําเหมือนโคฟี่อนัน ช่วยหยุดความรุนแรงในไทย และพร้อมส่งกําลัง และกลุ่มสันติภาพและแนวทางสันติวิธีมาในไทยก่อนที่ไทยจะเหมือนรวันดา”

“ขอความกรุณาได้โปรดช่วยพวกเราด้วย เราแค่อยากได้สิทธิ์ในการเลือกตั้งของเรา คืนมา แค่นี้ทําให้พวกเราสมควรถูกฆ่าหรือ ท่านผู้เป็นธรรมทั้งหลาย สหรัฐอเมริกา ท่านคือแม่แบบแห่งความยุติธรรม พวกเราขอวิงวอนและกรามขอร้องช่วยหยุด การฆ่าของรัฐบาลไทยและผู้อยู่เบื้องหลังให้กับพวกเราด้วย เราขอร้องท่านเพราะท่าน คือแม่แบบของความยุติธรรม หากท่านเมินเฉยอาจทําให้เราคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ขอได้โปรดมีความเมตตาต่อมนุษย์ด้วยกันด้วยเถิด พวกเรากราบของวิงวอน”

“โปรดช่วยประเทศไทยเราด้วยรัฐบาลโดยการนําของนายอภิสิทธ เวชชาชีวะ ส่ังทหารเข่นฆ่าประชาชนชาวไทยร่วม 51 ศพ โปรดช่วยเราด้วยโปรดช่วย ประเทศไทย ยุติทหารเข่นฆ่าคนไทยด้วยกัน เด๋ียวน้ีเรากําลังถูกฆ่าล้างเผ่าพันธ์คนไทย”

“Stop killing in the name of a war against terror!”

“อภิสิทธ์,สุเทพ,สรรเสิรญ,ปณิธาน,ธาริตย์,สาทิตย์ โกหกคนเส้ือแดงทุกอย่าง เช่น ล้มสถาบันโดยแผนผังน่าเกลียด ประชาชนถูกยิงมากกว่า 30 ศพ ท้ังผู้ชุมนุม , คนบริสุทธ์,พยาบาล,นักข่าวท้ังไทยและเทศ รวมถึงนักท่องเท่ียว แถมพวกมันยัง บิดเบือนว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ทหารบูรพาพยัคฆ์ก็จับประชาชนเป็นตัวประกันอีก และปิดก้ัน ไม่ให้ พรรคไทยรักไทย 111 คน กลุ่มนปช. และญาติของทักษิณ ทําธุรกรรมการเงิน โปรดพิจารณาด้วยครับ”

“ต้องการให้รัฐบาลหยุดความรุนแรงเดี๋ยวน้ี”

“หยุดใช้ความรุนแรงคืนความเป็นธรรมและยุติธรรมให้ประชาชนไม่แทรกแทรง ขบวนการยุติธรรม..เลิกใส่ร้ายใส่ความประชาชน…หยุดดึงสถาบันมากล่าวอ้าง”

“กรุณาอย่าเพิกเชยต่อการริดรอนเสรีภาพของประชาชน ทุกวินาทีมีความหมายต่อชีวิต ประชาชนท่ีประเทศไทย ขอท่านจงรับ จัดการกับการคุกคามต่อเสรีภาพ ประชาชนคนไทยเดี๋ยวน้ี ได้โปรด”

“Please help red shirt, even if they protest they are still human being they are not supposed to get shot with their bare hands, Innocent people not suppose to get shot by soldier.”

“The Government of Thailand obviously cannot handle the situation by themself. If it not dealt with soon enough, Thai will became the new Myanmar-like region.”

“Please help Thai people to get justice. It’s clearly about double standard justice in Thailand. We will appreciate if you can give justice for Red Shirts protester who were killed by dictator government.”

“Bangkok,Thailand-Hundreds of thousands of Thai people were protest for demorcacy by peachful but The terrorist government orders to office army used war’s weapons to killed innocent people. People are unable to go out, and in some areas, running out of food ,water and electric in protest area (that hunderds of thousand in that area) and used weapon to kill people since April’10 until now(May17, 2010)”

“ได้โปรดมาช่วยพวกเราด้วย ก่อนที่จะสายเกินไป ทหารฆ่าประชาชนผู้บริสุทธ์ิ”

“please, help innocent Thai peoples in Thailand now, thank you. The situation in Thailand has become inhuman! Please help us!”

“การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง”

“อยากให้มาช่วยพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธ์ท่ีโดนรัฐบาลไทยสั่งฆ่า”

“We need UN to stop the violence and brings all parties to the negotiating table in order to save all innocent civilians and turn Thailand into the peaceful country as ever. PLEASE!!!! We really need help.”

“Please urgently save the innocent and unamred Thai civilians from the tyrant government. They’ve been trying very hard to kill all of us. Please help immediately!!!”

“แด่นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยตัวจริงอ่ะ”

“ฉันต้องการนายกท่ีมากจากการเลือกต้ังของประชาชน”

“นายกและผู้เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ การใช้สื่อมอมเมา สร้างความเกลียดชังในสังคม และแผนสกปรกอีกมากมายที่ใช้ปกปิดความจริงและทําลายความน่าเชื่อถือของผู้ชุมนุมต้องถูกเปิดเผย”

“รัฐมีอํานาจทุกอย่างแต่ใส่ร้ายประชาชนคนไทยแ่ค่ยุบสภาคืนอํานาจให้เราทํา ไมมันยากหนักหนา อํานาจของท่านสําคัญกว่าชีวิตของพวกเรางั้นหรือ?”

“We’re all rising up of our rights as being human and for true democracy in our land but now turned out we’re treated less human than ever. Our lives depends on your help now, there’s really no hope for peaceful resolution from the authoritarian. Please help us.”

“ช่วยยุติทหารยิงคนด้วย”

“ช่วยคนไทย เสื้อแดงด้วย รัฐบาลจะฆ่า พวกเราตายให้หมด”

“หยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุโดยด่วน”

“รัฐบาลหยุดฆ่าประชาชนได้แล้ว”

“Thai government keep discredit red shirt all the time by call them “Terrorism”. Government said red shirt have heavy weapons, but you’ll see that only Thai military have the rifles and keep shooting, All red shirt can do is only burn tires or ran away. Please stop them before more people will be killed. They kill “Thai people” not the “terrorism”.”

“The King and Queen who order to kill civilians who has no weaponds.”

“The King Bhumibol is the master mind behind all the massacre in the past-present. He is murder by ordering his killer troups to kill civilians. Pls. come to see Thailand….”

“ช่วยประเทศไทยด้วย ค่ะ ตอนนี้ รัฐบาล เอาเปรียบประชาชน อย่างมาก รัฐบาลกําลังจะสังหารประชาชน ได้โปรด UN ท่านช่วยพวกเราด้วย”

“ขอประชาธิปไตยท่ีแท้จริง”

“เราต้องการความเป็นธรรมและความถูกต้อง”

และอีกมากมาย

 

ตัวอย่างที่ยกมาข้างบน คือข้อความของคนไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 ที่ไม่อาจอยู่นิ่งเฉยต่อการยิงประชาชนของทหารรักษาพระองค์ ภายในเวลา 2 วันพวกเขาร่วมหมื่นคนร่วมลงชื่อเรียกร้องให้ UN และนานาชาติเข้ามาช่วยกดดันรัฐบาลและทหารรักษาพระองค์หยุดยิงประชาชน

 

+++++++++++++++++++++++++

10 ธันวาคม 2554

ACT4DEM ทำเอกสารแถลงข่าว

“การรณรงค์เพื่อยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (มาตรา 112) และให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองและนักโทษคดีหมิ่นฯ ในประเทศไทย”

 

ในวันที่ 10 ธันวาคม  ได้มีความพยายามที่จะนำเสนอข้อเรียกร้องของกลุ่มแอคชั่นเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย (ACT4DEM) ที่ให้มีการยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ​ (มาตรา 112) พร้อมด้วยฎีกาเพื่อขอให้ในหลวงยกเลิกมาตรา 112 ของคุณเจริญขัย  แซ่ตั้ง รวมทั้งข้อเรียกร้องขององค์กรต่างๆ ที่เรียกร้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และปล่อยตัวนักโทษการเมืองในประเทศไทย ต่อนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

วันที่ 10 ธันวาคม เป็นวันสิทธิมนุษยชนสากล และก็ตรงกันอย่างบังเอิญกับวันรัฐธรรมนูญของไทย ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าพระเจ้าอยู่หัว ได้ลงพระปรมาภิไธยในรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ฉบับแรกของประเทศไทย หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชมาสู่ระบอบประชาธิปไตย (ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญอีก 16 ฉบับหลังจากนั้น!)

แม้ว่าจะถูกก่อกวนและเซ็นเซอร์อย่างหนักจากรัฐไทย แต่ก็มีผู้ร่วมลงชื่อในข้อเรียกร้อง 52 องค์กร กับ 1,700 คน นับตั้งแต่ ACT4DEM เปิดให้สาธารณชนร่วมลงชื่อเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2554  ทั้งนี้ ผู้ร่วมลงชื่อหลายคนเป็นที่รู้จักในสังคม ทั้งนักวิชาการ นักเขียน คนทำภาพยนตร์ นักเขียน สื่อมวลชน นักสหภาพแรงงาน และนักศึกษา ที่กล้ายืนหยัด ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย ที่ยังจำเป็นต้องใช้ความกล้าหาญกันอยู่มากในประเทศไทย

ข้อเรียกร้องของ ACT4DEM จะถูกนำเสนอพร้อมกับฎีกาถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรงโปรดให้พิจารณายกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของคุณเจริญชัย  แซ่ตั้งและคณะ และข้อเรียกร้องขององค์กรอื่นๆ รวมทั้งข้อเรียกร้องที่ ACT4DEM จัดทำเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2553 เรียกร้องให้สหประชาชาติและนานาชาติกดดันให้รัฐบาลไทย ยุติการใช้กองกำลังทหารปราบปรามประชาชน ซึ่งได้ยื่นให้ ฯพณฯ บัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติเมื่อเดือนตุลาคม 2553 แม้ว่าข้อเรียกร้องนี้จะถูกบล๊อคโดย ศอฉ. เกือบจะทันที แต่ก็ยังมีผู้ร่วมลงชื่อ 9,500 คน

เมื่อรวมจำนวนผู้ร่วมลงชื่อในข้อเรียกร้องและฎีกาต่างๆ เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายหมิ่นฯ และให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองที่จะนำยื่นต่อรัฐบาลไทยในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ มีจำนวนรวมกันกว่า 14,000 คน

รัฐบาลใหม่ของไทยไม่มีความจริงใจอย่างแท้จริงที่จะปกป้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ในทางตรงกันข้าม กลับเพิ่มมาตรการเข้มงวดและรุนแรงมากยิ่งขึ้นในการควบคุมการใช้พื้นที่ในอินเตอร์เนต และการตัดสินคดีีมาตรา 112 ที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

รัฐบาลยิ่งลักษณ์มุ่งหน้าเต็มที่เพื่อดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ตามคำแนะนำของทักษิณ และสนับสนุนการผูกขาดแนวนโยบายการจัดการน้ำของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จะพูดอีกนัยยะหนึ่งก็ได้ว่าเพื่อหล่อเลี้ยงระบบคอรัปชั่นวิถีเดิมกับ อิฐ หิน ปูน ทราย ที่สร้างผลกำไรอย่างมหาศาลให้กับชนชั้นนำ

กระนั้นก็ตาม การไม่มีความเกรงกลัวในการเร่งดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล กลับไม่ได้ขยายครอบคลุมไปถึงประเด็นที่ผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งได้มอบหมายให้กับรัฐบาลเข้ามาดำเนินการ: การเปิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น, เสรีภาพสื่อ, เสรีภาพในการชุมนุมสมาคม, และเพื่อความยุติธรรมทางการเมือง รัฐบาลไทยบอกประชาชน เช่นเดียวกับรัฐบาลที่ผ่านมาว่า “เศรษฐกิจต้องมาก่อน” และไม่สามารถดูหรือจัดการเรื่องนี้ได้ในขณะนี้ และประชาชนจำต้องให้เวลากับรัฐบาล เป็นต้น

ชนชั้นนำของไทยจินตนาการว่าประชาชนชาวไทยจะสามารถอดทน และยอมรับการโฆษณาชวนเชื่อว่า “Forgive and Forget (ให้อภัยและลืมมันเถอะ)” ไปได้อีกนานแค่ไหน ในขณะที่ผู้พิพากษาต่างก็็ดูกระตือรือร้นเหลือเกินที่จะพิพากษาชายสูงอายุวัย 61 ปี เช่นอากง ให้เข้าไปอยู่ในห้องขังเป็นเวลา 20 ปี เพราะคิดว่ามีความคิดที่แตกต่างกับฝ่ายนิยมกษัตริย์?

ประชาชนชาวไทยจะต้องเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งอีกกี่ครั้ง ก่อนที่จะได้รัฐบาลที่มีความกล้าหาญพอที่จะดำเนินนโยบายที่มุ่งประโยชน์สุขของประชาชนเป็นอันดับแรก?

ถ้าประเทศไทยจะมุ่งหน้าสู่อนาคตอย่างยั่งยืนและสันติสุข ความสับสนทางการเมืองในปัจจุบันจะต้องถูกปลดล๊อคและการคลายน๊อตจะต้องเริ่มด้วยการยกเลิกมาตรา 112 เพื่อให้ประชาชนร่วมนำเสนอข้อคิดเห็นเพื่อพัฒนาชาติโดยไม่ต้อง เสี่ยงกับการถูกสังหาร ส่งเข้าคุก หรือคุกคามจากฝากรอยัลลิสต์ ราวกับว่าประเทศไทยยังอยู่ในยุคกลางสมัยโบราณเช่นนี้

ราชอาณาจักรไทยไม่สามารถแสดงได้อย่างเปิดเผยว่าปฏิเสธเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น  และไม่สามารถปิดกั้นการรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 อย่างเปิดเผยได้

แต่นับตั้งแต่เปิดตัวข้อเรียกร้องให้มีผู้ร่วมลงชื่อเมื่อร่วมสองสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐไทยได้พยายามที่จะปิดกั้นการลงชื่อ ทั้งการก่อกวนเวบไซด์ที่โพสต์ข้อเรียกร้องในหลายๆ กรณี  ไฟล์ข้อมูล “60 ปีแห่งการคุกคามสิทธิและเสรีภาพ ในประเทศไทย” ซึ่งเป็นรายงานการศึกษาผู้เสียชีวิต 11,135  คน เพราะแนวนโยบายการเมืองไทยนับตั้งแต่ปี 2490 ที่อยู่ใน ‘4Share’ ถูกลบ อีเมล savethailand@gmai.com ถูก google ล๊อค และจนบันนี้ก็ยังไม่ยอมปลดล๊อค อาจบางทีเราต้องถาม Google ว่าด้วยเหตุผลใด  จะตอบมาว่าอย่างไร?

กระทรวง ICT ได้พยายามเจรจากับ Google, Facebook, Youtube เป็นเวลา 5 เดือนมาแล้ว เพื่อแจ้งให้ พวกเขาทราบว่าควรจะลบข้อความอะไรที่เป็นข้อความที่หมิ่นสถาบันฯ ที่กระทรวง ICT พิจารณาว่า “ไม่เหมาะสม”

เราหวังว่า Google, Facebook และ  Youtube จะรู้วิธีการจัดการกับวิถีชนชั้นสูงของไทย?

ประชาชนในประเทศไทย ยังคงไม่กล้าพูดในสิ่งที่คิดและรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา และความกลัวก็เป็นสิ่งที่จริง สำหรับคนไทย วิธีการที่พวกเขาจะแสดงความรู้สึกนึกคิดอย่างตรงไปตรงมา ก็ต้องทำใต้ดิน และภายใต้การใช้นามแฝง

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการเลือกตั้งมาบริหารประเทศเมื่อ 3 กรกฎาคม 2554 โดยได้รับมอบอำนาจจากประชาชน เธอปฏิบัติตัวเช่นเดียวกับวิถีการเมืองไทยที่ผ่านมา และแนวนโยบายและยุทธวิธีที่ปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดที่ของเธอ เริ่มเป็นที่น่าหวั่นเกรง และจำเป็นจะต้องได้รับการแก้ไขโดยทันที

ขณะนี้ พวกเราได้เริ่มตระหนักถึงปฏิกริยาของประชาคมนานาชาติเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการไร้ซึ่ง เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในประเทศไทย มีกว่า 20 ประเทศในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ที่ตั้งคำถามกับรัฐบาลไทยอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องการใช้มาตรา 112 และความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขกฎหมายมาตรานี้

แม้จะมีความพยายามของชนชั้นนำที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นในประเทศไทยและจากนานาชาติต่อแนวนโยบายการบริหารของรัฐบาลไทย – โดยไม่แตะต้องมาตรา 112 –  แต่เจตจำนงค์และการต่อสู้ของประชาชนจะชนะในที่สุด

ไม่มีทางที่การรณรงค์นี้จะถูกบล๊อคได้ ถนนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนจะไม่สามารถมุ่งหน้าไปได้เลยถ้าประชาชนส่วนใหญ่ยังอยู่ในความกลัวว่าจะถูกทำให้เป็นเหยื่อ ไม่กล้าแม้แต่จะลงชื่อในข้อเรียกร้องให้แก้ไขหรือยกเลิกกฎหมาย แม้แต่มาตราเดียวเช่นนี้ และในปัจจุบัน แค่การลงชื่อในข้อเรียกร้องยกเลิกมาตรา 112 ก็ได้สร้างความหวาดหวั่นให้กับผู้ลงชื่อและครอบครัวมากทีเดียว

พวกเราจำต้องสร้างกองกำลังสันติภาพแห่งผู้ที่มีสติและเหตุผล ให้มีจำนวนมากพอที่จะสามรถทะลายวัฒนธรรม แห่งความกลัวที่ค่ายนิยมกษัตริย์ ได้สร้างครอบสังคมไทยเอาไว้ เพื่อที่เราจะได้ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขและสนุกสนานในประเทศไทยท่ีเป็นอิสระและมีอิสระภาพอย่างแท้จริง

ไม่ว่าผลของการยื่นข้อเรียกร้องในวันที่ 10 ธันวาคม – วันสิทธิมนุษยชนสากล จะเป็นเช่นไร การรณรงค์เพื่อยกเลิกมาตรา 112 จะขยายวงกว้างมากขึ้น ข้อมูลต่างๆ จะได้รับการแปลในหลายภาษาเพิ่มมากข้ึน  เพื่อที่จะยืนยันถึงการปลดปล่อยตัวเราจากกรงขังแห่งมาตรา 112 และปลดปล่อยพี่สาว พี่ชายจากห้องขัง เพียงเพราะพวกเขาและเธอรักหรือไม่รักในหลวง ในวิถีที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่กระทรวง ICT และกองทัพคิดว่าควรจะเป็น

เราขอเชิญองค์กรต่างๆ ประชาชนผู้มีเหตุผลทุกท่านมาร่วมรณรงค์ยกเลิกมาตรา 112 กับพวกเรา การลงชื่อในข้อเรียกร้อง คือการลงชื่อรับกฎกติกาแห่งวิถีประชาธิปไตย

ในนามผู้ร่วมลงชื่อทุกท่าน

จรรยา ยิ้มประเสริฐ, ผู้ประสานงาน, ACT4DEM
ACT4DEM@gmail.com . . . .www.timeupthailand.net (https://act4dem.net)

ในเมื่อไม่สามารถยื่นหนังสือถึงมือนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยตรงได้ ในเวลา 16.00 น. คุณเจริญชัย แซ่ตั้ง จึงได้ตัดสินใจยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ไว้กับเจ้าหน้าที่หน้าห้องท่านประธานรัฐสภา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาร่วมด้วย พร้อมทั้งได้เขียนจดหมายสั้น ๆ ถึงท่านประธานรัฐสภาเพื่อแสดงความจำนงขอเข้าพบเพื่อยื่นเอกสารฉบับจริงในเวลาที่ท่านประธานรัฐสภาสะดวกให้เข้าพบต่อไป

ทั้งนี้แม้ว่าจะเป็นวันหยุดและไม่สามารถยื่นให้นายกได้โดยตรง แต่ก็ได้ดำเนินการเพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายของพวกเราที่ประกาศเอาไว้ว่า ในวันที่ 10 ธันวาคม จะดำเนินมาตรการเพื่อยื่นข้อเรียกร้องเหล่านี้ต่อท่านนายกรัฐมนตรี ACT4DEM ขอขอบคุณคุณเจริญชัย แซ่ตั้ง เป็นอย่างสูงในความเด็ดเดี่ยวและตั้งใจจริง ทำให้ภารกิจเบื้องต้นของพวกเราครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้