กษัตริย์ไทยเบี้ยวภาษีมาสี่ปีถูกขู่ยึดวัง

เขาไม่ได้เสียภาษีให้รัฐบาวาเรียมาสี่ปีแล้ว สินทรัพย์ของเขาในเยอรมนีอาจจะถูกยึดก็ได้

คนไทยผู้ไม่ชอบจ่ายเงิน – กษัตริย์ไทยผู้นี้มาพักอาศัยอยู่ในบาวาเรียเป็นเวลานาน ในขณะที่ราชินีของเขาอาศัยอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์

ข่าวโดย MAX W. BOEDDEKER
เผยแพร่เมื่อ 10.07.2021 – 12:14 pm

แปลจาก https://www.bild.de/unterhaltung/royals/royals/thai-koenig-droht-die-pfaendung-vier-jahre-keine-zweitwohnsteuer-gezahlt-77034176.bild.html

พระราชาจ๋า จ่ายหนี้หรือยังจ๊ะ

ในวันนี้เทศบาลเมืองทุซซิ่ง ในแคว้นบาวาเรียกำลังจะถังแตก สาเหตุหนึ่งก็เป็นเพราะกษัตริย์ไทย รัชกาลที่สิบ ผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์หรู Stolberg ขนาด 1,400 ตารางเมตร มีห้องอย่างน้อย 15 ห้อง ริมทะเลสาบ Starnberg รวมพื้นที่บริเวณโดยรอบเป็น 5,600 ตารางเมตร

คฤหาสน์หรูที่เป็นบ้านพักหลังที่สองนี้ เจ้าของต้องจ่ายภาษีตามกฎหมาย แต่ว่ากษัตริย์ไทยกลับไม่ได้จ่ายภาษีมาตั้งแต่ปี  2018 แล้ว !!!

จากการประเมินราคาที่ดินแล้ว ค่าเช่าคฤหาสน์ Stolberg 840,000 ยูโร ต่อปี (ประมาณ 32 ล้านบาทไทยต่อปี) โดยเป็นราคาที่ยังไม่รวมค่าน้ำและค่าไฟ

คฤหาสน์ราคา 12 ล้านยูโรของกษัตริย์ไทยในทุซซิ่ง (ภาพจาก Getty Images)
ทางเข้าคฤหาสน์ทุทซิ่ง (ภาพโดย Christian Rudnik)

ตามกฎหมายภาษีของเยอรมนี คือ 12% ของราคาอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็น 100,800 ยูโรต่อปี รวมสี่ปี กษัตริย์ไทยเป็นหนี้เทศบาลท้องถิ่นทุทซิ่งอยู่ถึง 403,200 ยูโร (ราวๆ 15.5 ล้านบาท!)

ในเวลานี้แม้แต่ชาวเมืองทุทซิ่งเองก็ไม่ปลื้มแขกกิติมศักดิ์คนนี้ นายกเทศมนตรีเมืองทุทซิ่ง Marlene Greinwald ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางเทศบาลเมืองได้ทำการเรียกเก็บภาษีบ้าน หลังจากที่ได้ตรวจสอบและยืนยันแล้วว่าบ้านหลังนี้ไม่ใช่ที่อยู่หลักของเจ้าของบ้าน จึงต้องเสียภาษีตามกฎหมาย

จริงอยู่ว่าแม้แต่กษัตริย์ก็ต้องจ่ายหนี้ แต่กษัตริย์ไทยนั้น ได้หลบเลี่ยงข้อกฎหมายของเยอรมนีมาโดยตลอด นับตั้งแต่หลังการเสียชีวิตของพ่อเขาในปี 2016 เขาก็หาทางหลบเลี่ยงภาษีมรดกที่มีมูลค่าถึง 3 พันล้านยูโร (ปัจจุบันคือราวๆ 1.15 แสนล้านบาท) ทั้งๆ ที่เป็นกฎหมายที่บังคับใช้กับทุกคนที่พำนักอยู่ในเยอรมนี

วิธีที่เขาหลีกเลี่ยงภาษีน่ะหรือ เขาเปลี่ยนคฤหาสน์ของตัวเองให้กลายเป็นสถานทูตด้วยป้ายกระดาษเขียนด้วยลายมือว่า ที่นี่คือสถานทูต เพราะสถานทูตนั้นได้รับการยกเว้นการจ่ายภาษีที่ดิน

สมาชิกเทศบาลทุทซิ่งคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบิลด์ว่า พระราชาคนนี้นี่ร้ายจริงๆ เขาเปลี่ยนรัฐอิสระให้กลายเป็นราชอาณาจักรไทย

กลโกงของชาวไทย เมื่อปี 2016 กษัตริย์ไทยประหยัดเงินที่ต้องจ่ายภาษีมรดกไป 3 พันล้านยูโรด้วยกระดาษเขียนด้วยลายมือโง่ๆ เปลี่ยนวังให้เป็นสถานทูต

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วชิราลงกรณ์มีปัญหาเรื่องเงินในเยอรมนี ในเดือนกรกฎาคม ปี 2011 เครื่องบินส่วนตัว Boeing 737 ของเขาก็ถูกอายัดไว้ที่สนามบินมิวนิค เพราะรัฐบาลไทยติดหนี้บริษัทก่อสร้างทางด่วนเยอรมันอยู่ถึง 30 ล้านยูโร

แม้เป็นราชา ก็ต้องใช้หนี้นะจ๊ะนายจ๋า

เมื่อสอบถามจากนักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญทางภาษี Christian Solmecke กล่าวว่ากรมสรรพากรจะส่งคำเตือนหากภาษีไม่ถูกชำระตามเวลาที่กำหนด โดยมีเวลาให้ชำระหนี้หนึ่งสัปดาห์ ในขณะเดียวกัน ทรัพย์สินและเงินในบัญชีของกษัตริย์ไทยในเยอรมนี จะถูกอายัดไว้ รวมถึงบ้านและรถด้วย

ไม่ใช่แค่วังในทุทซิ่งเท่านั้น แต่กษัตริย์ไทยยังมีบ้านอีกหลังในบาวาเรีย นั่นคือวังของเจ้าชายทีปังกรใน Feldafing ซึ่งอยู่รอบทะเลสาบ Starnberg เช่นกัน

วังของเจ้าชายทีปังกรใน Feldafing โดยเขาพักอยู่กับข้าราชบริพารตลอดปี (ภาพโดย Christian Rudnik)

เจ้าชายทีปังกรปัจจุบันเรียนอยู่ที่โรงเรียน Waldorf โดยทางกฎหมายแล้ว บ้านที่เขาอาศัยอยู่ก็นับว่าต้องจ่ายภาษีเช่นกัน

เมื่อทางสำนักข่าวสอบถามกับนายกเทศมนตรีเมือง Feldafing นาย Bernhard Sontheim ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียภาษี

เป็นอันรู้กันว่าต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้าและสรรพากร ทุกคนเท่าเทียมกัน

แต่กษัตริย์ไทยนั้น เท่าเทียมมากกว่าคนอื่น ก็เท่านั้นเอง