ภาพชุด “เบื้องหลังวิกฤติประเทศไทย” อีกหนึ่งเครื่องมือเพื่อคนตาสว่าง
โดย จรรยา ยิ้มประเสริฐ
21 เมษายน 2554
สำหรับ คนไกลบ้านที่ไม่สามารถเล่นสงกรานต์ที่เมืองไทยได้ ทำได้ดีที่สุดคือการวิเคราะห์ ขีด เขียน ด้วยความหวังว่า การเป็นอีกหนึ่งเสียงเพื่อนำเสนอบทวิเคราะห์การเมืองไทย และนำเสนอต่อทั้งคนไทยและคนต่างชาติ อาจจะเป็นมีส่วนบ้างช่วยให้การเปลี่ยนผ่านการเมืองไทยสู่ประชาธิปไตยประชาชน เป็นไปได้โดยไม่รุนแรง และชนชั้นสูงที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนาน ยอมลงจากอำนาจแต่โดยดี และประเทศจะได้เดินหน้าไปสู่เส้นทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง เสียที
ชุดนำเสนอ “เบื้องหลังวิกฤติประเทศไทย” นี้เป็นอีกหนึ่งความพยายามที่จะนำเสนอปัญหาเมืองไทยที่ซับซ้อน และวุ่นวายให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งได้พัฒนาปรับปรุง และแปลเป็นภาษาไทยจากภาษาอังกฤษที่นำเสนอครั้งแรกที่ฟินแลนด์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2554
การนำเสนอชุดนี้อาจจะดูซับซ้อนในบางช่วง แต่เพื่อการนำเสนอภาพองค์รวมของปัญหาเมืองไทยที่สะสมมาอย่างยาวนาน รวมทั้งผลกระทบจากแผนพัฒนาประเทศตามวิถี “ทุนนิยม” ตามก้นอเมริกา พิ่เบิ้ม นับตั้งแต่ปลายทศวรรษ 2490 เป็นต้นมา โดยไม่ได้ใตร่ตรองให้รอบคอบ ถึงจุดแข็งและความหลากหลายของประเทศ จนนำพาประเทศไทยตกขบวนการพัฒนามาหลายสิบปี จากการเป็นหนึ่งใน 51 ประเทศร่วมก่อตั้งสหประชาชาติเมื่อปี 2498 มาอยู่ในลำดับประเทศพัฒนาปานกลางในปี 2548 (ลำดับที่ 73) แต่ก็ได้ตกร่วงลงมา 20 ลำดับ มาสู่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในปี 2553 (ลำดับที่ 92) ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี
ยิ่งปล่อยให้ปัญหาการเมือง ไทยยืดเยื้อยาวนานมากเท่าไหร่ การพัฒนาของประเทศก็ยิ่งถดถอย และถอยหลังมากขึ้นเรื่อยๆ และก็จะยากมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะสร้างเสถียรภาพทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศอย่างแท้จริง
สำหรับ คนเสื้อแดง พวกเขาไม่ต้องดูดัชนีชี้วัดของสหประชาชาติก็เข้าใจได้ดีถึงความถดถอยของการ พัฒนาประเทศ และคุณภาพชีวิตของพวกเขาที่ย่ำแย่ลงทุกวัน จนได้พากันออกมาประท้วงกันต่อเนื่องเป็นแสนเป็นล้านคน – จนหมดเงิน หมดทอง กันครอบครัวละหลายหมื่นบาทตลอดสองปีที่ผ่านมา – ก็เพราะตระหนักได้ดีแห่งการถดถอยของการพัฒนาประเทศ จนยากจะทนอยู่นิ่งเฉย ได้อีกต่อไป
ภาพการนำเสนอ “เบื้องหลังวิกฤติประเทศไทย” ชุดนี้จึงไม่สามารถจะพูดเฉพาะการปะทะทางการเมืองระหว่างประชาชนกับค่ายทหาร ของชนชั้นนำจารีตนิยม และรัฐบาลรอยัลลิสต์เท่านั้น แต่นำเสนอภาพของวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้น และการประท้วงของประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปีด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะวิกฤติธรรมชาติ และการต่อสู้ของคนชนบทเพื่อปกป้องทรัพยากรและวิถีชีวิต เพราะพวกเขาเป็นเสียงที่เงียบหายโดยตลอด และต้องต่อสู้กันมาอย่างยาวนานหลายสิบปี โดยที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนกลางทุกยุค ทุกสมัย ที่มุ่งกาพัฒนาประเทศโดยยึดเอากรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางมานับตั้งแต่ต้นราชวงศ์จักรี โดยเฉพาะนับตั้งแต่นโยบายรวมศูนย์ของรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา
กรุงเทพฯ ที่ดูดเงินตราจากทั้งประเทศมากองรวมกันไว้มากมาย จนไม่รู้จะทำอะไร เอางบประมาณ 10,000 ล้านบาทมาละลายเล่นกับการสร้างสกายวอล์ค ที่ไม่มีความจำเป็นแม้แต่น้อย
ในวาระเพื่อการก้าวไปข้างหน้า เราได้เสนอว่า การจะพัฒนาสังคมไปข้างหน้า มุ่งสู่การพัฒนาที่ทัดเทียม แผนการพัฒนาต่อไปนี้ต้องวาง “ชนบท” เป็นหัวใจของการพัฒนา
[pdf-embedder url=”https://act4dem.net/wp-content/uploads/2020/03/Behind-Thai-crisis-2012-Thai.pdf” title=”Behind Thai crisis 2012 Thai”]