เปิดตัว“เอ็นจีโอ-เยอรมัน”รณรงค์ไล่“กษัตริย์ไทย” ตั้งเป้าเอาผิดค้ามนุษย์ละเมิดสิทธิมนุษยชนยื่นศาลโลก

ถอดคลิปการสัมภาษณ์ “เปิดตัว“เอ็นจีโอ-เยอรมัน”รณรงค์ไล่“กษัตริย์ไทย” ตั้งเป้าเอาผิดค้ามนุษย์ละเมิดสิทธิมนุษยชนยื่นศาลโลก” 

ที่ช่อง jom voice.

25 พฤษภาคม 2563

จอม เพชรประดับ: 

สวัสดีครับ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่รายการ Thai Voice เสียงไทย เสรีภาพเพื่อคนไทยครับ

ขณะที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัวและรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด 19 และเวลาเดี่ยวกันที่ทั่วโลกก็ดูเหมือนจะพุ่งเป้าความสนใจมาที่พระมหากษัตริย์ของไทย ที่ social distancing อยู่ในประเทเยอรมนี รัฐบาวาเรีย ท่ามกลางบรรดาเหล่านางฮาเร็มหญิงมากกว่า 20 คน และคนรับใช้ นับ 100 คนนะครับ โดยสื่อต่างประเทศไม่น้อยกว่า 40 สำนักข่าวทั่วโลก ก็ได้มีการขุดขุ้ย เอาเรื่องของข่าวส่วนพระองค์ของกษัตริย์วชิราลงกรณ์มานำเสนอกันอย่างคึกโครมทีเดียว 

และล่าสุดสื่อยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ Daily Mail ก้ได้น้ำเสนอเรื่องของเจ้าชายน้อย พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ที่ป่วยด้วยออติสติก และก็ถูกปล่อยให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวกับพี่เลี้ยง โดยมีการเปรียบเทียบว่าเหมือนอยู่ในกรงเหล็กที่ไม่สามารถหลีกหนีไปไหนได้ โดยมีการได้อ้างถึงแหล่งข่าวที่เป็นพี่เลี้ยงของพระองค์เจ้าทีปังกร ว่า กษัตริย์วชิราลงกรณ์ได้พาเจ้าชายวัย 15 ปีมารักษาตัวที่นี่ โดยให้ให้เข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งชื่อว่า  ซึ่งก็เข้าโรงเรียนนี้มาตั้งแต่ปี 2011 ทั้งนี้ก็เพื่อเตรียมความพร้อมให้เป็นพระมหากษัตริย์ต่อไป เพราะว่าถ้าหากให้พระองค์เจ้าทีปังกรอยู่ในประเทศไทย ก็อาจจะสร้างความอับอายจากอาการป่วย แต่ว่าการมาอยู่ในต่างประเทศก็แยกกันอยู่ ระหว่างที่ประทับของกษัตรืย์วชืราลงกรณ์ ซึ่งห่างกันประมาณ 40 ไมล์  

และไม่เพียงเฉพาะการรายงานข่าวการใช้ชีวิตของกษัตรืย์ไทยพระองค์นี้เท่านั้น แต่ก็ยังมีการเคลื่อนไหวรณรงค์ของกลุ่มที่เรียกว่า มูลนิธี PixelHELPER ซึงเป็นองค์กรเอกชนที่รณรงค์เรื่องสิทธิเสรีภาพ และประชาธิปไตยของคนเยอรมัน ซึ่งก็ร่วมมือกับกลุ่มของคนไทยซึ่งอยู่ที่ยุโรป กลุ่มคนไทยที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของไทยด้วย

โดยกิจกรรมที่ทำการรณงค์ ชื่อว่า “ส่งกษัตริย์กลับประเทศไทย” ซึ่งก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อประมาณกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ด้วยการฉายแสง ยิงแสงไปยังสถานที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประทับของกษัตริย์วชิราลงกรณ์ ฉายไปที่โรงแรมแกรนด์โฮเทล เชนเนนบิลล์ ซึ่งเป็นที่ประทับ ที่ว่าการรัฐบาวาเรีย สถานทูตไทย กรุงเบอร์ลิน เป็นต้น 

ซึ่งภาพที่ฉายไปก็มีทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน ที่บ่งถึงความไม่พอใจถึงพฤติกรรมของกษัตริย์ไทยพระองค์นี้ที่เกิดขึ้น ที่ในเมืองไทยและขณะที่พักอยู่ในเยอรนีด้วย 

โดย Oliver Bienkowski ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม PixelHELPER ก็ได้เขียน บทความหรือจะเรียกได้ว่าเป็นแถลงการณ์ก็ได้ ที่ว่าสถาบันกษัตริย์ไทยเป็นศัตรูกับประชาธิปไตยเพราะให้การสนับสนุนในการทำรัฐประหารในประเทศไทยมาโดยตลอด และยังแทรกแซงการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่ตลอดเวลาจนไม่สามารถพัฒนาประชาธิปไตยไทยให้ยั่งยืนและก้าวหน้าไปได้ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา 

นอกจากนั้น การเข้ามาพำนักอย่างถาวรในเยอรมันยังเป็นภาระของรัฐบาลเยอรมนีที่จะต้องดูแลด้านความปลอดภัยให้กับเขา และกษัตริย์ไทยพระองค์นี้เองก็ยังได้ทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนในโรงแรม ที่พักของเขาด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้ามนุษย์ การล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงและแรงงาน อย่างโหดร้ายเหมือนทาส ดังนั้นชาวเยอรมันเอง ก็ไม่ควรจะอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบนี้ในประเทศของตัวเองอีกต่อไป และควรที่จะส่งกลับกษัตริย์ไทยให้กลับไปประเทศไทยทันที 

โดยนาย Oliver ยังตั้งเป้าหมายสำหรับการรณรงค์ในครั้งนี้ ด้วยการให้ชาวโลกนั้นได้รู้ถึงการทุจริต และการทารุนกรรมคนอื่นๆ ของกษัตริย์ไทยพระองค์นี้ ซึ่งสวนใหญ่ก็เป็นคนไทย และหยุดการทรมานคนไทย  สองต้องการให้รัฐบาลเยอรมันนั้นขับพระองค์นี้ออกไป เพราะได้มีการละเมิดกฎหมายหลายข้อ สามต้องการให้กษัตริย์ได้รับการลงโทษจาการะกระทำผิดผ่านกระบวนการยุติธรรม และสี่ต้องการให้สังคมไทยพ้นไปจากความหวาดกลัวที่สร้างขึ้นจากกษัตริย์พระองค์นี้ แลตอ้งการให้สังคมไทยนั้นก้าวไปสู่สังคมที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น หรือว่าที่แท้จริงฃ

โดยกลุ่มที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้ก็ได้มีการขอรับการสนับสนุนทางด้านการเงินด้วย ผู้ที่สนใจจะสนับสนุนก็สามารถบริจาคได้ที่ paypal@pixelhelper.tv และที่เวบไซด์ pixelhelper.org

ผลจากกิจกรรมนี้เอง ทำให้นักการเมือง จากพรรคกรีนอย่างน้อยสองคน ซึ่งพรรคกรีนซึ่งเป็นพรรคการเมืองของเยอรมนี ได้นำเรื่องนี้ เข้าไปสอบถามต่อผู้ว่าการรัฐบาวาเรียว่าทำไมถึงให้สิทธิพิเศษต่อกษัตริย์พระองค์นี้เข้าไปพักในโรงแรมที่รัฐบาวาเรีย ในขณะที่ทุกโรงแรมก็ถูกสั่งปิด อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทั้งนี้ กษัตริย์ไทยพระองค์นี้ก็มีตำหนักหรูอยู่แล้ว เป็นตำหนักหรูส่วนพระองค์ อยู่ริมทะเลสาบที่เมือง Tutzing ห่างออกไปเพียง 60 กม. เท่านั้น ทำไมไม่ไปพักที่นั่น แต่ทางสำนักงานเขตของรัฐบาวาเรียเองก็แจ้งว่า คณะของกษัตริย์ไทย ไม่ได้เข้าพักในฐานะนักท่องเที่ยว แต่เข้ามาพักเพื่อพระราชกรณียกิจส่วนพระองค์ แต่นักการเมืองจากพรรคกรัน ก็ยังไม่ได้พอใจมาก ต่อคำตอบแบบนั้น เพราะเห็นว่านี่เป็นการที่ทางรัฐบาวาเรียพยายามใช้กฎหมายที่เป็นสองมาตรฐาน จึงเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นนั้นใช้กฎหมายที่เป็นการเท่าเทียมกับคนเยอรมัน 

วันนี้เราจะมาพูดคุยกับเรื่องนี้ จะเรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวกับกลุ่มบุคคลที่ทำการรณรงค์ในเรื่องนี้ ในการที่จะนำกษัตริย์ไทยกลับไปยังประเทศไทย ซึ่งแน่นอนคณะบุคคลที่ทำกิจกรรมรณรงค์ในเรื่องนี้ ที่จะนำกษัตริย์ไทย ซึ่งก็มีคุณ Oliver Bienkowski คนเยอรมัน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ PixelHELPER ซึ่งแน่นอนก็มีคนไทยด้วยที่ทำกิจกรรมนี้ ซึ่งก็คือ คุณจรรยา ยิ้มประเสริฐ ซึ่งเราจะไปพูดคุยทั้งสองท่าน 

จอม: สวัสดีโอลิเวอร์ ขอบคุณที่มาร่วมรายการกับเรา

Oliver Bienkowski: ยินดีครับ

จอม: ผมจะเริ่มคำถามด้วยการถามไปยังโอลิเวอร์ สิ่งแรกที่ผมอยากรู้ คือ ทำไมถึงเริ่มการรณรงค์นี้ 

Oliver: เราได้มีการรณรงค์ต่อต้านระบอบกษัตริย์ทั่วโลกมาได้ 3 ปีแล้ว  ทั้งด้วยการฉายแสงถ้อยคำประท้วงหรือว่าในรูปแบบอื่นๆ เพราะว่าวิถีกษัตริย์มันควรจะต้องหมดไปจากโลกได้แล้ว เราก็รณงรค์มาตลอด และก็เดินทางไปศึกษาในบางประเทศด้วยเช่นกัน และผมก็ได้รู้จักกับจรรยาทางโซเชียลมีเดีย และเราก็พูดคุยกันถึงเรื่องนี้ และก็นับตั้งแต่นั้นมา เราก็ได้วางแผนการรณรงค์ร่วมกัน เพื่อผลักดันให้รามา 10 สละราชบัลลังก์และเปิดให้ประเทศไทยมีการเลือกตั้งอย่างเสรีปราศจากการแทรกแซงของทหาร ทหารก็ควรทำหน้าที่ในฐานะทหารของรัฐบาล โดยไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวการเมือง

จอม: ทำไมคุณถึงสนใจในระบอบกษัตริย์ ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย แต่ระบอบกษัตริย์ในโลกนี้ด้วย

Oliver: เราคิดว่าประชาธิปไตยเป็นรูปแบบหนึ่งของศิลปะ และระบอบกษัตริย์เป็นรูปแบบการปกครองของอดีตของโลกยุคมืดของยุคกลาง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ผมถึงทำไฟ DNA ของพวกให้ปั่นไม่หยุด เพราะว่า DNA ในตัวคนไม่ได้เป็นเครื่องระบุว่าเขาควรจะเป็นกษัตริย์ เพราะเราต่างก็เป็นมนุษย์ เราควรจะสามารถมีการเลือกตั้งอย่างปกติ. โดยที่ไม่มีทหารหรือกษัตริย์มายุ่ง โอเค    

จอม: สวัสดีคุณจรรยา รู้จักกับ Oliver และมาร่วมงานกันได้ยังไง

 จรรยา ยิมประเสริฐ: จากโซเชียลมีเดีย และถ้าคนตามงานของ ACT4DEM จะเห็นว่าเราพยายามไปที่เยอรมันหลายรอบ เพื่อที่จะสร้างพันธมิตร เพื่อที่จะหาพันธมิตรมาร่วมกันขับเคลื่อน เพราะว่าที่เยอรมัน เป็นสถานที่สำคัญ เพราะว่ากษัตริย์อยู่ที่นั่น และก็มีเพื่อนแนะนำให้รู้จักกัน เราก็คุยกันแค่ 5 นาที ก็ตัดสินใจว่าเราจะร่วมกันรณรงค์ เพราะมันเป็นความต้องการที่สอดคล้องกันอยู่แล้ว เราก็ต้องการหาคนหรือองค์กรที่มีความกล้าหาญอยู่แล้ว และเขาก็ต้องการคนไทยที่ทำเรื่องนี้เข้ามาช่วยกันทำ เพราะว่ามั่นเกี่ยวข้องกับเรื่องของภาษา เรื่องของข้อมูลด้วย  

จอม: โอลิเวอร์ ก่อนที่จะทำการรณรงค์นี้ คุณได้รู้จักกษัตริย์ไทยมาก่อนไหม

 Oliver: มันก็เร่ิมจากการที่ผมไ้ดข่าวกษัตริย์คนก่อน และก็การครอบครองทรัพย์สินและหน่วยงานต่างๆ หลังจากที่เขาสิ้นชีวิตไปแล้ว และก็เริ่มทำให้เราเริ่มมาสนใจ ว่าเกิดอะไรหลังจากนั้น กษัตริย์คนใหม่เป็นใคร และมาทำอะไรที่ประเทศเยอรมนี และผมคิดว่าหลังจากการเสียชีวิตของกษัตริย์คนก่อน กษัตริย์รามา 9 ประเทศไทยควรจะมีรัฐบาลตามระบอบประชาธิปตไตยโดยที่ไม่มีกองทัพและกษัตริย์เข้ามายุ่งเกี่ยว และประเทศไทยก็มีทุกส่ิงทุกอย่าง ถ้ากษัตริย์เปิดทางให้กับประชาธิปไตย ประเทศนี้ก็จะมีอนาคตที่สดใจมาก  

จอม: คุยเคยไปประเทศไทยไหม

Oliver: ผมไม่เคยไปเอเชีย ผมไปอัฟริกาหลายครั้ง ผมไปแต่ทวีปอัฟริกา เพราะผมชอบอากาศร้อนแห้ง และผมคิดว่าอากาศประเทศไทยชื้นเกินไปสำหรับผม  

ผมไม่ขึ้นเครื่องบิน ผมจะไปไหนด้วยการขับรถไปเอง ซึ่งถ้าจะขับรถไปประเทศไทย ก็คงจะใช้เวลานานมาก 

 จอม: มีข่าวเกี่ยวกับกษัตริย์ไทยมากมาย คุณเช็คได้ยังไงว่าข่าวไหนจริง ข่าวไหนปลอม ข้อเท็จริงเป็นอย่างไร เพราะว่าคนไทยไม่อาจพูดถึงระบอบกษัตริย์หรือกษัตริย์ได้ ดังนั้นทุกสิ่งเกี่ยวกับกษัตริย์ เกี่ยวกับประเทศไทย ส่วนใหญ่มันจึงเหมือนกับข่าวลือ ที่คุยกันทั่วไปแต่ไม่มีหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความจริง แล้วคุณเช็คข้อเท็จจริงอย่างไร  

Oliver: สิ่งที่เราเห็นในโซเชียลมีเดีย ในทีวี มันจะไม่ใช่ข่าวผิดทุกครั้งไป และดังนั้นผมคิดถึงประชาชนที่ต้องทุกข์ทรมาน หรือเป็นทาสของคนร่ำรวยบางคน ผู้คนต่างก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้ และยังมีเรื่องการท่องเที่ยวอีก และผมคิดว่า ความสนใจที่ประเทศนี้ คือ มันมีรัฐบาลเผด็จการที่เลวร้าย ที่กระทำร่วมกันโดยสถาบันกษัตริย์และทหาร ที่กดขี่ย่ำยีประชาชน  และผมคิดว่าประชาชนอยู่ในความหวาดกลัว และมันไม่เปลี่ยน เมื่อคุณมีผู้นำที่แย่ ที่จัดแถวขบวนประชาชนราวกับเป็นวงออเคสตร้าในเบอร์ลินหรือในมิวนิค และประชาชนก็เป็นเพียงหุ่นประกอบในสนามการเมืองนี้ ดังนั้นผมจึงคิดว่า คุณจะเห็นวิถีชีวิตของกษัริย์ที่อาศัยอยู่ในเยอรมนี และเขาทำอะไรที่นี่ ดังนั้นผมก็ยังคิดว่า เราจะได้เห็นว่าเขาปฏิบัติกับประชาชนเลวร้ายขนาดไหน 

 จอม: กรณีของการทำงานร่วมกันมันยังไง 

จรรยา: เขาให้เบอร์ติดต่อมา แล้วเราก็คุยกัน และสิ่งที่น่าประทับใจ ก็คือว่า พอคุยกัน ในสังคมไทย พวกเราจะอยู่ในความไม่วางใจกันเยอะ  เราจะเกร็ง แต่เราพอเราได้คุยกันผ่านสไกด์ เราก็เปิดหน้าคุยกันเลย และก็คุยมาเลยว่าจะทำอะไร เราก็บอกว่าเออได้ เห็นด้วย และก็ช่วยทันที โดยเฉพาะเรื่องงานด้านเอกสาร ด้านภาษา ด้านข้อมูล และหลังจากนั้นก็ทำงานกันมาเลย เป็นเดือนมาแล้ว ที่เราคุยกันทุกวัน คุยเรื่องแผน เรื่องข้อความที่จะใช้  และก็ประเด็นการตอบรับจากเมืองไทยเป็นไง เราก็จะเอามาถ่ายทอดให้โอลิเวอร์ฟังด้วย 

จอม: คุณโอลิเวอร์มีข้อมูลของกษัตริย์ไทยอยู่พอสมควรไหม 

จรรยา: มีเยอะ

จอม: คนจะบอกว่า เขาเป็นคนรวย กษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลก เมื่อเขาเข้ามาอยู่ในประเทศของคุณ มันก็จะเป็นประโยชน์กับประเทศคุณใช่ไหม เพราะว่าเขาเข้ามาพร้อมเงินจำนวนมหาศาล เพื่อมาใช้จ่ายที่ประเทศของคุณ มันก็เป็นเรื่องดีกับคุณใช่ไหม ทำไมถึงจะต้องไล่เขาออกไป ผมหมายความว่า ทำไมจะต้องต่อต้านเขา

 Oliver: ผมคิดว่าในเยอรมนี มีคนไม่กี่คนจริงๆ ที่สามารถจินตนาการได้ว่า ทำไมกษัตริย์วัยกลางคนจึงมาอยู่ที่เมือง Garmisch-Partenkirchen มันก็ไม่ต่างจากกษัตริย์จากซาอุดิอารเบีย ที่เข้ามาพร้อมเงินมหาศาล คุณมั่นใจได้เลยว่า คนที่อยู่ในประเทศเยอรมนี ถ้าจะปฏิบัติกับคนอื่นแย่มากแบบนั้น หรือทำตัวว่าเป็นกษัตริย์แบบนั้น เขาไม่เป็นที่ต้อนรับ และผมก็คิดว่า ถ้าเราสามารถมีคนที่ช่วยเปิดเผยข้อมูลความเลวร้ายเหล่านี้ หรือส่งวีดีคลิปที่มีการทำร้ายคนอื่นไปยังรัฐบาลเยอรมัน มันจะต้องมีผลสะเทือนถึงกษัตริย์แน่นอน หรือส่งผลต่อการไปขึ้นสู่ศาลนานาชาติ ในฐานะอาชญากรต่อมนุษยชาติ ที่ทำส่ิงเลวร้ายต่อมนุษยชาติ ซึ่งแม้ว่าจะมีเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูตปกป้องอยู่ก็ตาม แต่ถ้าคุณทำอาชญากรรมที่ทำร้ายผู้คนแบบนี้ มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกดำเนินคดี เพราะมันเป็นอาชญากรรมที่จะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล

จอม: ในประเทศคุณ มีคนที่มีชื่อเสียง มีกษัตริย์หลายคน ผู้นำของประเทศอื่นๆ มาพักอยู่ในประเทศคุณ แต่มีเพียงกษัตริย์ไทยเท่านั้น ที่ไม่ (เป็นที่ต้อนรับ) 

โอลิเวอร์: ใช่ ถ้าคุณรู้จักเมืองที่เขาอยู่ ที่เขาชอบ และมันก็อยู่ในประเทศเยอรมนี มันอาจจะพูดยากว่าทำไมเขามาอยู่ที่นี่ แต่เขารักที่นี่ แต่ผมคิดว่ามันก็เป็นสถานที่แน่นอนว่าสวยงาม แต่เขาไม่อาจทำวีดีโอซ้อมทรมานผู้คน หรือว่าส่งนักฆ่า หรือนักมวยไปทั่วยุโรป เพื่อไปทำร้ายผู้คน หรือผู้ลี้ภัยการเมืองไทย ผมจึงคิดเรื่องผู้ที่จะสามารถให้ข้อมูลเหล่านี้กับเรา เพื่อที่จะให้ข้อมูลเหล่านี้ไปถึงรัฐบาลต่างๆ ในยุโรป เพื่อเขาจะถูกนำตัวไปขึ้นศาล หรืออาจจะถูกสังขังคุก 20 ปี ซึ่งก็จะทำให้หนทางสู่ประชาธิปไตยในประเทศไทยมันเป็นจริงได้

จรรยา: มันไม่ใช่เฉพาะส่งเขากลับไปยังประเทศไทย แต่การรณรงค์ของเรายังมองไปถึงเรื่องกระบวนการทางกฎหมาย ว่าเขาได้กระทำอาชญกรรมอะไรบ้างต่อประชาชนในประเทศไทยด้วยเช่นกัน ใช่ไหมฮะ

Oliver: ใช่ และมันก็เป็นไปได้ที่เยอรมนี คุณจะเห็นว่ามีการเอาใบยึดเครื่องบินไปปิดที่เครื่องบินเขาที่มิวนิค กษัตริย์ไทยไม่ใช่พระเจ้าที่เยอรมนี เขาก็เป็นเพียงคนรวยคนหนึ่ง คนรวยที่บ้ามาก ที่ไม่รู้ว่าจะแต่งงานกับผู้หญิงได้กี่คน หรือไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวดีๆ กับผู้หญิงยังไง นี่มันเป็นมารยาทที่คนควรจะมี แต่เขาโยนภรรยาเก่า แฟนเก่าไปเข้าคุก และที่ในยุโรป คนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ก็มีแต่คนบ้าคลั่ง ดังนั้นวิถีชีวิตแบบรามา 10 จะมาใช้ที่ประเทศเยอรมนีไม่ได้ อยู่ที่เมือง Garmirch พร้อมกับโสเภณี 20 คน แบบนี้ไม่ได้ 

จอม: คุณจะต้องมีหลักฐานมากกว่านี้ ที่จะสามารถพิสูจน์ว่าเขากระทำอาชญากรรมต่อคนไทย คุณมีหลักฐานอะไรบ้าง 

Oliver: นั่นคือสาเหตุที่ว่าเราจะตั้งเงินรางวัล อาทิ 20,000 ยูโร (750,000 บาท) สำหรับคนที่ส่งวีดีโอภาพการทรมานผู้คนโดยกษัตริย์ไทยมาให้เรา เราจะให้รางวัลตอบแทน และเป้าของเราก็คือ การส่งตัวกษัตริย์ไปคุกเพื่อให้ประเทศไทยเป็นอิสระ และผมก็คิดว่ามันเป็นไปได้ เพราะผมคิดว่ามีผู้คนมากมายรอบตัวกษัตริย์ที่ไม่ชอบเขา ถ้าได้เงินรางวัล 5,000 ยูโร เขาก็อาจจะส่งวีดีโอมาให้เรา และเราก็จะเอาหลักฐานนี้ไปแจ้งความกับตำรวจ และกระบวนการสอบสวนก็จะเริ่มขึ้น ผมคิดว่าอย่างนั้น 

จรรยา: จะเล่าให้ฟัง เพราะเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เราคุยกัน สโลแกนของเราจึงออกมา ว่าเขาไม่เป็นที่ต้องการทั้งในเยอรมนีและในประเทศไทย ซึ่งเสียงสะท้อนจากเมืองไทยก็คือ อย่าส่งคิงกลับประเทศไทย เราไม่เอา เราก็คุยกันว่า ถ้าอย่างนั้น ก็ส่งเขาไปที่ศาลแล้วกัน ก็เลยเริ่มมีกระบวนการปรึกษากับทีมทนายไว้แล้วว่า มีช่องทางกระบวนการศาลใดในยุโรปได้บ้าง ทั้งศาลที่เยอรมนี ศาลในอียู และศาลนานาชาติที่เราจะดำเนินคดีได้ 

คือพอพูดเรื่องกระบวนการละเมิดกฎหมายหลายอย่างเนี่ย ตอนนี้ อย่างหนึ่งที่เห็นตอนนี้คือ รัฐสภาบาวาเรียก็เริ่มแล้ว อย่างกระบวนการเลือกปฏิบัติ  

ก็มีช่องทางหลายช่องทางที่ตอนนี้กำลังคุยกันอยู่  

จอม: แต่ว่าหลักฐานที่เขามีเนี่ย เพียงพอที่จะกล่าวหากษัตริย์นี้ไหม ที่จะไปทารุนกรรม ไปฆ่าคน ก็มีข้อมูลเหล่านี้อยู่ในมือด้วยเหมือนกันไหม

Oliver: ผมคิดว่า ถ้ามีคนให้ข้อมูลเราเยอะๆ เราก็จะมาดูว่าจะแบ่งเงินตอบแทนกันยังไง นี่คือหนึ่งในสาเหตุที่เราเปิดระดมทุน GoFundMe เพื่อระดมทุนในการเตรียมไว้ให้กับคนที่มอบหลักฐานให้กับเรา ถ้าเราได้วีดีโอที่พิสูจน์ได้ว่ากษัตริย์ไทยทำอาชญากรรม เราวางเป้าว่าจะระดมทุนส่วนนี้ 50,000 ยูโร เรายังระดมได้ไม่มาก ไม่ถึง 1,000 ยูโร แต่เราได้ใจของผู้คน และเราก็หวังว่าเราจะระดมเงินได้มากเพื่อจะใช้จ่ายในการนี้ ผมคิดว่าถ้าคุณมีแค่มือถือ แค่กดถ่ายภาพ 2 หรือ 3 ครั้ง และก็ส่งวีดีโอมาให้เรา เราก็จะส่งเงินไปให้คุณ ทางไหนก็ได้ ทาง Western Union ที่ไหนในโลกนี้ก็ได้ เราต้องการคนที่จะส่งหลักฐานมาให้เรา และเราก็คิดว่าเราจะได้หลักฐาน มันก็ขึ้นอยู่กับการรอเวลาเท่านั้น ยิ่งกษัตริย์ทำผิดมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน และยิ่งถ้าเขาอยู่ในอารมณ์โกรธ เขาก็ยิ่งทำผิดมากขึ้น และเราก็กำลังทำหุ่นเขา เพื่อไปแสดงให้เขาดูด้านเลวร้ายกษัตริย์คนนี้ อย่างมีศิลปะ 

 และเราก็จะไปที่โรงแรมของเขาที่มิวนิค และก็จะทำวีดีโอยูทูป โดยเป็นการเล่นละครหุ่น จะมีหุ่นเขา หุ่นโสเภณี และหุ่นซาตาน เพื่อสะท้อนว่ากษัตริย์เป็นยังไง ผมคิดว่ามันสำคัญที่เราจะคุยเรื่องนี้ เพราะเรื่องแบบนี้ถ้าคุยในประเทศไทย คุณก็จะถูกส่งเข้าคุก ดังนั้น เราจึงต้องทำมันเอง และเราก็ไม่กลัวกษัตริย์คนนี้ 

เรามีกษัตริย์มากมายมาอยู่ที่เยอรมนี แต่เมื่อเขามาถึงประเทศนี้แล้ว เขาก็ไม่ใช่กษัตริย์อีกต่อไป หรือถ้าคุณไปฝรั่งเศสหรือสเปน นั่นก็ไม่ใช่ที่ของการทำตัวเป็นกษัตริย์ ไม่ใช่ที่ยุโรป มันก็ดีถ้าเขาจะมาเที่ยวในประเทศเยอรมนีแบบมาพักผ่อนวันหยุด และก็ไปช๊อบปิ้งต่างๆ แต่เที่ยวเสร็จก็ควรขึ้นเครื่องกลับประเทศของตัวเอง ถ้าคุณมาถึงที่นี่แล้ว คุณก็ควรจะกลับไป เพราะคุณก็แก่แล้ว และคุณก็มีเงินมากมายมหาศาล คุณไม่จำเป็นจะต้องซื้อทั้งรัฐบาวาเรีย ดังนั้นเขาควรจะกลับไป และปล่อยให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างเสรี 

จอม: คนเยอรมนีตอนนี้ รู้เรื่องกษัตริย์ไทยมากน้อยแค่ไหน และคนเยอรมนีส่วนใหญ่คิดอย่างไรกับกษัตริย์ไทยตอนนี้

Oliver: ผมคิดว่า หลังจากกษัตริย์มาที่เมือง Garmirsh มันได้สร้างความขายหน้าต่อคนเยอรมัน ที่ต้องเห็นขบวนเสด็จของเขาวิ่งไปมา และมีคนไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้ประโยชน์โดยตรงทางการเงินจากกษัตริย์ ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ใน Garmirsh ไม่ต้องการเห็นกษัตริย์แมงดากับทหารโสเภณี 20 คนที่นี่  เรามีคนรวยมากมายมาที่นี่ ทั้งจากรัสเซียและจากซาอุฯ หรือจากโลกตะวันออก ที่มาเที่ยวที่เมือง Garmirsh ทุกสัปดาห์ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องพิเศษที่จะมีคนรวยที่นั่น และถ้าเป็นคนรวยที่ไม่มีมารยาท ก็ไม่มีใครต้องการเขา เพราะว่าถ้าคุณไปที่ปานามา หรือที่อื่นๆ ที่เขาจะใช้ชีวิตปาร์ตี้บ้าคลั่งแบบนี้ได้ แต่ก่อนไปเขาก็ควรจะให้ประชาธิปไตยกับประชาชน และให้รัฐบาลของประชาชนบริหารประเทศโดยปราศจากทหาร นี่คือสิ่งที่เขาควรทำถ้าเขาเป็นผู้นำประเทศไทย แต่เขาเป็นเพียงแมงดาแก่ๆ กับทหารโสเภณี 20 คน ที่อยู่ที่โรงแรมที่ประเทศเยอรมนี มันดูเป็นคนค่อนข้างบ้า และผมไม่คิดว่าเขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองได้ เพราะเขาคิดว่าเขามีเงิน และเขาเป็นพระเจ้า จะใช้เงินซื้ออะไรก็ได้ แต่เขาทำสิ่งที่เลวร้าย และเป็นสิ่งที่ละเมิดกฎหมาย และด้วยเหตุนี้ เขาควรจะไปยืนในศาลที่ยุโรป ถ้าเขายังคงอยู่ที่ยุโรปต่อไป 

จอม: คุณจะอธิบายเพิ่มเติมได้ไหมถึงกระบวนการฟ้องร้องศาลยุติธรรมที่ยุโรป โดยเฉพาะเมื่อกษัตริย์ได้รับการคุ้มครองทางการทูต

Oliver: มันเป็นไปได้ 

การณรงค์ของเราจะใช้เวลาเป็นปีหรือสองปีจนกว่าจะชนะ และผมคิดว่าหลังจากเราเริ่มต้นประกาศให้รางวัลคนนำหลักฐานมาให้เรา อาทิ ถ้าเราได้หลักฐานภายใน 6 เดือนนี้ หลักฐานเหล่านี้เราจะส่งไปที่ศาลอาชญากรรมนานาชาติ เพื่อฟ้องร้องว่ารามา 10 ทำร้ายผู้คน และผมคิดว่าถ้าเขายังอยู่ในประเทศเยอรมนี หรือสเปน หรือประเทศอื่นในทวีปนี้ เขาก็จะถูกนำตัวมาขึ้นศาลเหมือนนักการเมืองคนอื่นๆ ได้ ถ้าเรามีหลักฐานที่มีน้ำหนัก และเราก็หวังจะมีคนส่งหลักฐานมาให้เรา มันก็จะเป็นไปำได้ แม้ว่าเขาจะมีเอกสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครองอยู่ แต่มันก็จะไม่คุ้มครองเขาในยุโรป ถ้าเขาก่ออาชญากรรมหรือทำเรื่องที่เลวร้าย 

จรรยา: และก็มีศาลสิทธิมนุษยชนของสหภาพยุโรปที่น่าเชื่อถือ ด้วยที่คนสามารถฟ้องร้องคดีได้

Oliver: เราจะดูทุกช่องทางที่ทำได้ ถ้ามีผู้สนับสนุนเข้ามา เราก็จะจ้างทีมทนาย เพื่อดูทุกช่องทางทางกฎหมายที่เราสามารถกระทำได้ที่ยุโรป เพื่อส่งกษัตริย์ไปไปสู่ตะแลงแกง 

จอม: องค์กร PixelHELPER มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน มีความเป็นมาอย่างไร และเคยทำการต่อสู้แบบนี้มาก่อนหรือเปล่า

Oliver: เรามีการเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญๆ หลายเรื่อง และเราเคลื่อนไหวทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น การรณรงค์ครั้งก่อนหน้านี้ คือ การนำเสนอปัญหาเรื่องมุสลิมมาสู่ความสนใจของสื่อมวลชน โดยเฉพาะประเป็นเรื่องอุยกูร์ที่ประเทศจีน ที่ถูกส่งเข้าแคมป์และถูกกักกัน พวกเขาทำลายมอสของคนมุสลิม และก็อีกมากมาย เราจึงไปช่วยสร้างให้พวกเขาที่โมรอคโค ที่ภาคเหนือของอัฟริกา และก็กิจกรรมร่วมรำลึกถึงการสังหารชาวยิวเมื่อสัปดาห์นี้ และการรณรงค์ของเราก็เป็นข่าวใหญ่ที่ BBC  มีผู้ชมกว่าครึ่งล้านในวันเดียว และถูกนำไปเผยแพร่ทั่วทั้งภูมิภาคอาหรับ เราต่อสู้เพื่อสิทธิของคนกลุ่มน้อย คนยากคนจน และผู้คนในประเทศที่ไม่มีเสรีภาพ หรือไม่มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หรือการปิดกั้นการแสดงออกทางศิลปะ ซึ่งมีการปิดกั้นอย่างบ้าคลั่งในบางประเทศ ทำงานศิลปะออกมาแล้วก็ถูกทำลายทิ้ง คือ เราสู้ในประเด็นใหญ่ๆ ทั่วโลก สู้กับความโหดร้าย และผมคิดว่า รามา 10 ก็เป็นหนึ่งในคนที่โหดร้ายป่าเถื่อน และประเทศไทยก็ควรจะได้กลับไปสู่ระบอบประชาธิปไตย 

จอม: ขอบคุณครับ คำถามที่อยากจะถามก็คือว่า กษัตริย์ไทยพระองค์นี้อยู่ในสถานะแบบไหนที่เยอรมัน สถานะของกษัตริย์ ของทูตใช่ไหม ซึ่งทูตเนี่ยกฎหมายของเยอรมันก็จะต้องคุ้มครองเขา ถ้ามีกฎหมายคุ้มครองอยู่ คุณโอลิเวอร์จะทำอะไรได้ ในเมื่อกฎหมายก็ให้การคุ้มครองในฐานะทุตหรือในฐานะกษัตริย์ จะมีช่องไหนที่รัฐบาลของคุณจะปล่อยให้ทำได้  

Oliver: มันเป็นประเด็นที่ผมก็คิดถึงอยู่ และก็คิดว่ามันถึงเป็นเวลาที่จะต้องไปสอบถามรัฐมนตรีต่างประเทศ Heiko Maas และผมคิดว่า ถึงเวลาจะต้องไปฉายแสงที่กระทรวงต่างประเทศที่เยอรมนี ที่เบอร์ลิน เพื่อให้มีการพูดคุยในประเด็นนี้ที่รัฐสภาเยอรมัน และคิดว่าเราจะต้องทำให้กระทรวงการต่างประเทศต้องเข้ามา ผมคิดว่าถึงมันมีการคุ้มครองทางการทูต แต่มันก็ไม่คุ้มครองทุกสิ่ง คุณจะฆ่าคนได้หรือไม่ได้ ถ้าเรามีคนส่งหลักฐานมาให้เรา เราก็ยิ่งมั่นใจว่าตำรวจจะจับรามา 10 ไปเข้าคุก 

จอม: เรื่องของกษัตริย์ไทย เรื่องของการค้ามนุษย์อันนั้น อาจจะเป็นที่ต้องถกเถียงกันว่าเขาใช้คนเยี่ยงทาสแบบไหน แต่เรื่องการที่กษัตริย์ไทยมีส่วนทำให้เกิดการฆาตกรรมหรือฆ่าคนน่ะ สังคมไทยเองก็ไม่มีอะไรที่ชัดเจนไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้น เรากำลังจะบอกว่า เรากำลังจะหาหลักฐานอยู่ใช่ไหม เรื่องคลิปอะไรต่างๆ แต่ในเมื่อของไทยเองก็ยังไม่ชัดขนาดนั้น ว่าสั่งฆ่าเองหรือว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าเนี่ย แล้วหลักฐานพวกนี้มันจะมาเอาเขาเป็นคนเข้าศาลว่าฆาตกรรม คุณเล็กคิดว่ามันจะไหวไหม มันจะได้ไหม ขนาด 9 คนที่ตาย ที่เป็นผู้ลี้ภัยการเมือง ที่เป็นผู้ลี้ภัยที่อยู่นอกประเทศเนี่ย เราก็เป็นแค่ข่าวลือว่าเขาอยู่เบื้องหลังการสั่งฆ่า แม้แต่เรื่องการฆ่าคนในวังทวีวัฒนา หรือว่าคุกในวังเนี่ย อันนี้มันก็เป็นแค่ข่าวลือ คุณเล็กคิดว่ามันมีหลักฐานจริงๆ ได้จริงหรือ

จรรยา: ในกระบวนการเนี่ย ไม่ใช่แค่เรื่องหลักฐาน แต่ว่ากระบวนการทำร้ายคนไทยต่างๆ มันมีร่องรอยเยอะมากของ แค่ยกตัวอย่างถึงการเปลี่ยนผ่านจากรัชกาลที่ 9 มาสู่กษัตริย์วชิราลงกรณ์ ตั้งแต่ปี 2549 กษัตริย์ได้ทำการละเมิดกฎหมายมากมายเลย ไปในการอ้างเรื่องความมั่นคงของสถาบันกษัตริย์ ด้วยการปลดนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนเลือกมา อย่างไม่ชอบธรรมไปถึง 4 คน โดยการกล่าวอ้างข้อผิดพลาดต่างๆ ของนายกรัฐมนตรี 4 คน ซึ่งเป็นข้อเล็กน้อย คือ แทบไม่ต้องหาหลักฐานอื่นเลย คือ ในแง่ ของความผิดพลาดของกษัตริย์วชิราลงกรณ์ ตั้งแต่ในเรื่องการริบหุ้น การยึดคืนที่ดิน การโอนสำนักงานทรัพย์สินเป็นของตัวเอง กระบวนการขนเครื่องบินไปที่วังของตัวเอง คือร่องรอยของการทำผิด ถ้ากษัตริย์วชิราลงกรณ์เป็นนายกรัฐมนตรี เขาจะไม่ใช่เพียงแค่ถูกปลด แต่ต้องเข้าคุกแน่นอน แต่นี่เพราะเขาเป็นกษัตริย์ 

นี่ก็เป็นคำถามกลับไปถึงคนไทยว่า ร่องรอยของการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกษัตริย์วชิราลงกรณ์มันเยอะมากกว่า 4 นายกรัฐมนตรีที่ไล่ออกไป ซึ่งเทียบกันไม่ได้เลย อันนี้ก็เป็นเรื่องวิจารณญาณของคนไทยแล้ว ว่าไม่ใช่มันไม่มีกระบวนการที่จะเอาผิด ในแง่นโยบายนี่ผิดแล้ว ให้ทหารทำการรัฐประหารนี่ก็คือการกบฎ

ถ้าเราเปรียบเทียบกษัตริย์วชิราลงกรณ์ในฐานะคนๆ หนึ่ง ที่เป็นผู้นำประเทศ เขาไม่สามารถที่จะอยู่ได้เลยถ้าไม่มีรัฐประหาร 2549 กับ 2557 หนุนเขาอยู่ตอนนี้ เขาก็เป็นอาชญากร เป็นกบฎของประเทศชาติด้วย ร่องรอยการละเมิดสิทธิมนุษยชน ร่องรอยการคอรัปชั่น ร่องรอยของผลประโยชน์ทับซ้อนของเนี่ยเต็มไปหมดเลย แค่พวกนี้ก็เยอะแล้ว คือเรื่องของการฆาตกรรม เรื่องของคำสั่งของการฆาตกรรมเนี่ย คือ หน่วยของทหารเนี่ยสาธารณชนก็พอจะรับรู้กันอยู่แล้ว หลักฐานมันเยอะมาก 

สี่นายกรัฐมนตรีไม่มีความผิดเลย ถ้าเทียบกับกษัตริย์วชิราลงกรณ์ และไม่ควรจะถูกไล่ เพราะถ้ากษัตริย์วชิราลงกรณ์อยู่ได้เนี่ย ก็จะไม่มีนายกรัฐมนตรีในประเทศไทยคนไหนที่มีความผิดเลย  

จอม: ใช่ การเมืองภายในอาจจะทำยาก กำลังพูดถึงมุมมองของชาวโลกที่มีต่อกษัตริย์ไทยพระองค์นี้ คือว่าอันไหนคือความผิดที่เขาทำไว้ในแง่ของการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง แต่ว่าเรื่องราวที่คนต่างชาติรู้เยอะก็คือเรื่องของภรรยา เรื่องที่เขากระทำกับภรรยาและก็ลูกๆ เขา อันนี้ก็ชัดเจนในสายตาของชาวโลก เพราะว่าชาวโลกรู้จักเรื่องนี้เยอะนะว่า กษัตริย์ไทยพระองค์นี้กับเมียที่เขาทำร้ายมากี่คน เอาญาติพี่น้องของเมียไปเข้าคุกบ้างแล้วทำให้ต้องอะไรอย่างนี้ เอาลูกมาอยู่โดดเดี่ยวอะไรแบบนี้ มันมีอยู่หลายประเด็น ซึ่งลึกๆ คนไทยก็รู้มาก ถ้าจะรวบรวมกันอย่างจริงๆ จังๆ มีให้เห็นจริงๆ ว่านี่เป็นการกระทำที่สะท้อนให้เห็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในหลายๆ กรณีเหมือนกัน ซึ่งอันนี้น่าสนใจ

จรรยา: แค่คิดว่าถ้าเขาเป็นประมุขของประเทศที่มาจากการเลือกตั้งเนี่ย เขาถูกไล่ออก คือ เขาผิดจริยธรรม ผิดจรรยาบรรณ ผิดกฎหมาย และจะถูกไล่ออกตั้งแต่เดือนแรกแล้ว ก่อนขึ้นครองราชย์ด้วยซ้ำไป ไม่มีทางเป็นประมุขของชาติ ถ้าเขาเข้ามาในฐานะของคนปกติ ไม่ใช่เพราะมี DNA ของกษัตริย์อยู่ในตัวแบบนี้ 

จอม: อันนี้จะอยากจะขอคุยกับคุณเล็กต่อ หลังจากที่เราทำเรื่องนี้กัน หลังจากที่คุณเล็กทำ ที่โอลิเวอร์ทำ เขาโกรธมาก และก็จะทำอย่างที่เขาเคยทำ คุณเล็กไม่กลัวเหรอ อยู่ไม่ไกลจากประเทศเยอรมนีเท่าไร 

จรรยา: คือกลัวจนเลิกลัวแล้ว คือคนไทยเราอยู่กับความกลัวสถาบันกษัตริย์มาทั้งชีวิต ตอนเล็กลี้ภัย หรือเลือกสู้อยู่ที่ฟินแลนด์ตั้งแต่ปี 2553 เล็กก็อยู่กับการถูกขู่ฆ่ามาตลอด ไปประท้วงแต่ละครั้งก็จะถูกบอกว่าเขาจะส่งมือปืนมายิงคุณนะ และเราก็ยังประท้วงตลอดมาสิบปี 

เพราะว่ามันเลยจุดของความกลัวมาแล้วอ่ะ มันจะอยู่กับความกลัวว่าโดนขู่ฆ่า มีร่องรอย และมันก็ไม่ใช่เรื่องของความกลัวที่ไม่มีมูลความจริงนะ เพราะว่าถ้าเทียบคน 112 ที่ลี้ภัยเรามีอยู่แค่ประมาณ 60-70 คนเท่านั้น ที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง แล้วถูกฆ่าตายไปแล้ว 9 คน 15% ของพวกเราคน 112 ถูกฆ่าตายจริง ถูกอุ้มฆ่าปิดปากเพื่อไม่ให้เคลื่อนไหว เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เป็นอะไรที่เกิดขึ้นไม่ได้ มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ต้องทำ ตอนนี้เราก็อยู่ในเงื่อนไขว่า ในยามที่เรายังมีลมหายใจ เราก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราจะถูกยิงหัวตายเมื่อไร ในยามที่เรายังมีสติ เราทำได้ เราต้องรีบทำ 

และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงดีใจที่ Oliver ติดต่อมา คือมันหนีไม่พ้นอ่ะ ถ้าเราจะถูกฆ่าตาย เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมตัวรับมือกับมันและก็สู้กับมันในภาวะที่รับรู้ว่าอันตรายมันคืออะไร

จอม: การต่อสู้ในครั้งนี้ มันมีสัญญาณอะไรหรือว่ามีภาวะอะไรที่สะท้อนว่ามันอันตรายกว่าที่ผ่านมาไหม เพราะว่ามันเป็นอะไรที่รู้สึกว่าเขาไม่พอใจอย่างรุนแรงมาก

จรรยา: ดังนั้นถ้าวันหนึ่งจรรยาโดนยิงตาย ก็แน่นอนว่าเป็นการสั่งของกษัตริย์วชิราลงกรณ์ ตายก็แค่นั้น คนอยู่ก็สู้ต่อ ก็แค่นั้น เพราะเรายืนยันว่าเราต้องสู้ เช่นเดียวกับโอลิเวอร์ เขายังไม่กลัวเลย เขายังกล้าเลย แล้วเราคนไทยจะไม่มีใครที่แสดงความกล้า ที่จะมาพูดความจริงที่เห็นชัดเจนเลยว่าเขาเป็นคนแบบไหน อย่างโอลิเวอร์เรียกว่าเป็นกษัตริย์แมงดาแบบนี้ ละเมิดสิทธิมนุษยชนแบบนี้ แล้วอย่างเราเพื่อนเราสิบกว่าเปอร์เซนต์ที่ถูกสังหาร มันเป็นพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้อยู่แล้ว

จอม: เข้าใจความมุ่งมั่นของคุณเล็ก แต่ว่ามีสัญญาอะไรออกมาบ้างหรือยัง หรือว่าคุณเล็กได้รับสัญญาณอะไรบางอย่างไหมว่ามันน่ากลัว 

จรรยา: ทุกครั้งมันจะมีสัญญาณมาเลย แต่ว่าครั้งนี้ไม่มี มันก็อาจจะมาเงียบๆ เลย แล้วถ้าหายไปก็หายเงียบๆ แบบนี้ ก็ต้องสังเกตการณ์เอาเอง ต้องดูแลเอาเองแล้วกัน 

จอม: กลับไปที่โอลิเวอร์ ผมคิดว่าคุณตกเป็นเป้าของกษัตริย์ คุณกลัวจะถูกทำร้ายจากหน่วยรบพิเศษของกษัตริย์ไทยหรือไม่

Oliver: เราไม่กลั ผมคิดว่าถ้ามีการพิสูจน์ได้ว่ามีการส่งกองกำลังหรือหน่วยล่าสังหาร หรือวางระเบิดใต้ท้องรถเรา เขาก็จะต้องถูกส่งตรงไปยังศาลระหว่างประเทศแน่นอน ในใจของเราที่เยอรมนี เราไม่กลัวไม่ว่าเขาจะมีเงินมากมายมหาศาลแค่ไหน ถ้าเราจะกลัวคนแบบนี้  เราต่อสู้กับกษัตริย์ซาอุฯ มาตลอด 10 กว่าปี และเราก็ทำการต่อสู้ที่โมรอคโคโดยไม่เจอกับหน่วยล่าสังหารข้ามมาจากซาอุดิอารเบีย ถ้ากษัตริย์จะทำผิดละเมิดกฎหมาย ที่ประเทศเยอรมนี เขาก็ควรจะต้องรีบเผ่นออกจากประเทศนี้ให้เร็วที่สุด 

ผมเข้าใจดีว่าคนไทยกลัวกษัตริย์คนนี้ เพราะเขาเป็นกษัตริย์ที่ชอบซ้อมทรมานผู้คน และประเทศคุณก็ถูกคุมด้วยตำรวจและทหาร ซึ่งนี่ก็ยิ่งจำเป็นที่พวกเราในโลกที่เปิดกว่าและเสรีกว่าจะนำศิลปะและการต่อสู้ของพวกคุณมาสู้กับกษัตริย์อาชญากร และหยุดพฤติกรรมละเมิดสิทธิมนุษยชนของเขา   

จอม:  สิ่งที่คุณทำในขณะนี้ เป็นประเด็นที่ซีเรียส ที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ มันจะก่อให้เกิดผลกระทบด้านความสัมพันธ์ของเยอรมนีและไทยหรือไม่เพราะการรณรงค์ครั้งนี้  

Oliver: ผมว่ามันต่างกัน คุณต้องมากความแตกต่าง เพราะเราคิดว่าการณรงค์ของเราได้ใจของคนไทย และบรรยากาศทางการเมืองโลกก็ไม่เข้าข้างกษัตริย์ด้วย และถ้าคุณไล่ทูตของเขาออกไปจากเยอรมนี นั่นก็ยิ่งเป็นก้าวย่างที่ให้เห็นความบ้าของผู้ชายแก่ที่บ้าคลั่งคนนี้ ผมคิดว่าคนไทยรู้ดีว่าคนยุโรปก็ไปเที่ยวประเทศไทย  และมันก็จะไม่ทำลายความรักและวิถีมนุษยชาติของทั้ง มันจะยิ่งแสดงว่ากษัตริย์คนนี้เข้าใกล้วาระสุดท้ายของเขามากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราต่อสู้ และผมคิดว่าเขาควรจะยุติการใช้อำนาจทางการเมืองเสียแล้วคืนอำนาจนั้นให้กับประชาชน เพราะว่าคนไทยรอคอยมานานมากแล้วที่จะทำให้ประเทศเป็นอิสระจากทหารแก่และกษัตริย์ชรา เราจะต้องสู้ตอนนี้ 

 

จอม: ถ้าคนอยากจะสนับสนุนการรณรงค์ครั้งนี้ของคุณ เขาจะทำได้อย่างไร 

 Oliver:  ความปราถนาสูงสุดของผมสำหรับปี 2020 ก็คือ การสำรวจวิถีชีวิตของกษัตริย์ไทย ช่วยกันส่งข้อมูลให้กับเรา เพราะผมคิดว่ากษัตริย์จะถูกทรยศโดยคนวงในที่ใกล้ชิดที่สุดของเขาเองนั่นล่ะ เพราะคนเหล่านี้สามารถทำการแอบบันทึกภาพและวีดีโอโดยที่กษัตริย์ไม่เห็น ที่นี่เป็นประเทศเยอรมนี คนสามารถซื้อเบอร์โทรศัพท์จากเคาท์เตอร์ โดยที่สายลับของกษัตริย์จะไม่เห็นได้ ผมขอให้กำลังใจแก่คนที่ต้องการจะเปิดโปงกษัตริย์ และคิดว่าคุณควรจะซื้อโทรศัพท์ที่เยอรมัน และก็ส่งหลักฐานมาเพื่อพิสูจน์ว่ารามา 10 สมควรถูกส่งเข้าคุก และถ้าเราได้รับหลักฐานเหล่านี้ ผมจะเป็นคนที่มีความสุขมาก ท่านสามารถช่วยเราได้ด้วยการแชร์ลิงก์การระดมทุนของเรา หรือไปเยี่ยมเวบไซด์ของเรา  เราก็จะมีรางวัลตอบแทนให้กับผู้ให้ข้อมูล เพื่อให้ยุติระบอบกษัตริย์ไทย เพื่อประชาชนจะได้มีประชาธิปไตยที่แท้จริง และในสัปดาห์หน้าเราจะทำอะไรบางอย่างเพื่อสนับสนุนผู้ประท้วงที่ฮ่องกง เพื่อให้พวกเขาได้ประชาธิปไตย

ผมคิดว่ามันสำคัญที่ประเทศไทยจะเป็นอิสระ ที่ประชาชนจะได้ใช้ชีวิตปกติ ได้รับค่าแรงจากงานที่ทำ วิถียุคมืดของโลกยุคกลางในประเทศไทยจะได้จบลงเสียที ถ้ารามา กลับบ้านและให้พื้นที่กับประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ มันถึงช่วงเวลาแห่งประชาธิปไตยในประเทศไทย

จรรยา: เราต้องขอยืนยันว่า เราจะพยายามดูแลเรื่องการช่วยเหลือด้านความปลอดภัยแก้ผู้ให้ข้อมูลกับเราอย่างเต็มที่ 

Oliver: แน่นอน เราไม่เปิดเผยชื่อ ไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้นของผู้ให้หลักฐานกับเรา ท่านจงวางใจและส่งข้อมูลหลักฐานมาให้เราทาง snail mail หรือทางอื่นๆ และแน่นอน เราจะไม่พูดถึงคนที่ให้หลักฐานต่อสาธารณะ และเราจะส่งหลักฐานเหล่านี้ไปให้ตำรวจ และหวังว่าเขาจะกลับไทย หรือไม่ก็ไปเข้าคุก  

จอม: เรามีพยายานเยอะที่เห็นการทำร้ายผู้คนของกษัตริย์ และหลายคนก็ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ พวกเขาจะเป็นพยานที่ดีมากว่ากษัตริย์ทำอะไรไว้กับคนไทยบ้าง ออกมมาอยู่ต่างประเทศก็เยอะ ทั้งทหาร ตำรวจ อยู่ในหลายประเทศ และพลเรือนที่เป็นข้าทาสบริวารของกษัตริย์ และครอบครัวเขาถูกกระทำก็เยอะ นี่ก็เป็นศูนย์กลางที่เขาส่งข้อมูลมาให้ได้ใช่ไหม

จรรยา: ส่งมาได้ทั้งกับโอลิเวอร์ ทั้งกับเล็ก (จรรยา) คนก็คงวางใจกับเล็กแล้วล่ะ ว่าเราคือคนที่ช่วยคนลี้ภัยการเมือง คน 112 มาโดยตลอด ก็จะรู้ว่าจะต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับเรื่องความปลอดภัยของคน 112 ถ้าสื่อสารกับโอลิเวอร์ไม่ได้ ข้อมูลต่างๆ ก็ส่งมาให้เล็กได้เลย 

แนะนำว่าการส่งอย่าส่งข้อมูลทางเฟซบุ๊ค ให้ทำแค่แจ้งมา แล้วเราจะดูช่องทางในการติดต่อที่มั่นใจได้มากกว่าว่าปลอดภัย 

จอม: ผมคิดว่าความอัดอั้นตันใจ เขามี คนมีข้อมูลก็มี แต่เขาคิดว่ามันเอาไปใช้ประโยชน์ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวก็จะอยู่ในอันตราย ไม่มีใครคุ้มครองเขาไม่ได้ 

จรรยา: หนึ่งเดือนที่ผ่านมาของกิจกรรมฉายแสง เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น คุณมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ใช่เฉพาะการฉายแสงคำเหล่านี้ใช่ไหม 

Oliver: ใช่ เรามีความคิดจะทำกิจกรรมอีกเยอะแยะ ที่เราอยากจะไปทำที่หน้าโรงแรมที่กษัตริย์พักอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในเยอรมนี หรือว่าถ้าเขาอยู่ที่สเปน ก็ไม่มีผล เราจะตามเขาไปทุกที และก็จะไปเผชิญหน้ากับเขา และก็ถามเขาว่า รู้ตัวไหมว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ และเราก็จะเอากระจกไปให้เขาส่องดูตัวเอง และเขาก็ควรจะต้องรู้สึกกลัวได้แล้ว เพราะศิลปะโค่นเผด็จการมาได้หลายคนแล้ว 

 ผมคิดว่า ก้าวต่อไปของเรา ก็คือการแสดงหุ่นละครมือ เพื่อแสดงให้คนเห็นว่ากษัตริย์ทำอะไรกับประชาชนบ้าง และเขาเป็นคนโหดร้ายป่าเถื่อนแค่ไหน ส่วนประชาชนในประเทศไทยก็จะเริ่มโกรธแค้นมากขึ้นเรื่อยๆ และออกมาประท้วงไล่ และนี่ก็อาจจะเป็นไปได้ และถ้าทหารยิงประชาชนอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะถ้าใช้อาวุธที่ซื้อไปจากเยอรมนี ทั้งกระสุน หรือปืนไรเฟิล ประเทศเยอรมันก็เจอการต้านแน่ ที่ขายอาวุธไปให้ประเทศไทย ไปให้กษัตริย์ใช้ทำร้ายประชาชน ซึ่งนี่เป็นประเด็นฟ้องร้องในศาลได้ เพราะมันเคยมีคดีที่มีผู้ประท้วงถูกยิงด้วยปืนไรเฟิลจากเยอรมัน แล้วก็มีการนำคดีฟ้องร้องต่อศาล 

เรามีแผนการต่อสู้มากมายเลย แน่นอนมันก็มีปัญหาหนักๆ เช่นกัน ก็ได้แต่บอกว่า พวกเราจะมาเยือนในยากค่ำคืน เพื่อจะกวนไม่ให้กษัตริย์สามารถหลับนอนได้เลยทีเดียว แต่ว่าก็ใช้เวลาพอสมควร กว่าจะมาถึงจุดนี้ 

จอม: ต่อไปนี้เป็นคำถามสุดท้าย คุณโอลิเวอร์ ผมประทับใจในสิ่งที่คุณทำให้กับคนไทย ให้กับประชาธิปไตยในประเทศไทย แต่คำถามนี้อาจจะทำให้คุณโมโหก็ได้ แต่ผมต้องถามว่า ถ้ากษัตริย์ไทยโทรหาคุณ อยากจะคุยกับคุณ อยากจะเจอกับคุณ และเสนอเงินก้อนใหญ่ให้คุณเพื่อให้หยุดรณรงค์ คุณจะว่ายังไง

Oliver: ผมก็จะบอกเขาว่า ถ้าจะมาเสนอข้อเสนอล้าสมัยของโลกยุคกลางแบบนี้ เรามาจัดดาบดวลกันดีกว่า เรามาดวลกันที่หน้าโรงแรมที่คุณพักเลย 

เพราะผมคิดว่ากษัตริย์ไม่ควรจะกดประชาธิปไตยให้อยู่ใต้อำนาจเขา และควรกลับไปคืนอำนาจให้ประชาชน ดังนั้นการณรงค์ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องการหาเงิน และมันเพื่อเปิดโปงอาชญากรรมที่เขากระทำขึ้น ว่าเขาทำร้ายผู้คนอย่างไรบ้าง เขาทำร้ายเมียและครอบครัวของเมียเขาอย่างไรบ้าง เขาคือกษัตริย์อาชญากร เขาเป็นกษัตริย์ที่ทำร้ายมนุษยชาติ ดังนั้นถ้าเขาจะโทรมาหาผม ผมก็จะบันทึกการสนทนาไว้ แล้วก็จะเอาเผยแพร่ทางทวิตเตอร์โดยทันที    

จอม: คุณเล็กมีความหวังแค่ไหน ว่าสุดท้ายแล้วกระบวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกษัตริย์ของไทย มันจะขึ้นสู่กระบวนการศาลโลกได้มากแค่ไหน 

จรรยา: ก็อยากจะบอกว่า ในการพยายามหาพันธมิตรที่ยุโรป ที่มีความกล้าหาญ ที่จะออกมาร่วมกัน เพราะว่าเราไม่สามารถขับเคลื่อนปัญหาหนักๆ อย่างนี้ได้ด้วยตัวเราเอง เราต้องมีองค์กรเจ้าภาพ องค์กรท้องถิ่น อันนี้ต้องบอกว่า เป็นครั้งแรก ที่เรามีองค์กรเจ้าภาพที่เข้มแข็ง ที่มีความกล้าหาญ มีประสบการณ์ต่อสู้ที่ดุเดือด รู้ว่าจะรับมืออย่างไรกับสถานการณ์ ก็ต้องถือว่า นี่เป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ที่กษัตริย์ของไทยถูกประท้วงโดยนานาชาติ อันนี้ก็ต้องถือว่า เป็นหมุดหมายของประวัติศาสตร์ที่มันเริ่มขึ้นแล้ว ในแง่นี้ เราก็ต้องบอกว่า เราก็มาไกลเกินกว่าที่เราคาดหวังอยู่แล้วกว่าจะมาถึงจุดนี้  

เราคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้ มันหยุดไม่อยู่อยู่แล้ว ในกระบวนการทำงานต่อเนื่องเนี่ย มันทำกันต่ออยู่แล้ว ก็คือ คือ มีองค์กรเจ้าภาพที่ทำงานต่อ

เรื่องของกระบวนการศาล เรื่องของคดีนี้ เราก็คิดว่า มันมีช่องทางเยอะ อย่างที่บอกว่าตอนนี้มันมี 3 ศาล 2 รัฐสภา คือ รัฐสภาของบาวาเรีย และก็รัฐสภาของชาติที่อยู่ที่เบอร์ลิน มีการเรียกร้องถึงถึงกระทรวงต่างประเทศให้ตรวจสอบสถานภาพ

คือกระบวนการทางกฎหมาย (การเมือง) เนี่ยเรามาไกลกว่าที่เราเคยทำมา คือ อันนี้มันแน่นอน 

แต่ว่ากระบวนการทางศาลเนี่ย อย่างที่เราบอกว่า ถ้าในกระบวนการศาลในฐานะที่เป็นปัจเจกฟ้องเนี่ย เราฟ้องศาลในระดับเยอรมัน กับศาลในระดับอียู ศาลสิทธิมนุษยชนอียู ซี่งในระดับปัจเจกเราฟ้องได้ นี่มีความเป็นไปได้สูง 

แต่ถ้าศาลระดับ ICC อันนี้เราก็ต้องดูที่เยอรมันด้วย ถ้าการรณรงค์ที่เยอรมันประสบความสำเร็จดีมาก แล้วมาเป็นเจ้าภาพ นั่นคือต้องเป็นรัฐฟ้องรัฐด้วยใช่ไหม ก็เป็นไปได้ เพราะ ICC ประเทศไทยฟ้องไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าฟ้องจากฐานที่เยอรมัน ก็เป็นอะไรที่คิดว่ามันมีความหวังพอสมควร 

แต่ว่าในกระบวนการตอนนี้เราก็ยังพูดไม่ได้ เพราะเราต้องฟังรูปการณ์จากทีมทนายด้วย เพราะเรายังไม่ได้คุยในรายละเอียด สิ่งที่เราต้องเช็คก่อนก็คือว่า กระบวนการคุ้มครองเอกสิทธิทางการทูตของกษัตริย์วชิราลงกรณ์อยู่ในระดับไหน และมันจะสามารถทำให้กระบวนการตั้งกระทู้ ตั้งคำถามตรงนี้ เพื่อสร้างความชัดเจน ให้ตอบอย่างชัดเจนได้ว่า กษัตริย์อยู่ที่นั่นได้รับการคุ้มครองอย่างไร และถ้าเป็นอย่างนั้นรัฐบาลจะมีท่าทีอย่างไร

คือตอนนี้มี 3 – 4 กระบวนการที่ไปด้วยกัน คือ 1) กระบวนการทางสาธารณะ ที่เราเล่นอยู่คือกระบวนการทางสาธารณะ 2) กระบวนการทางการเมือง ซึ่งก็เริ่มแล้ว และ 3) กระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งเรากำลังดูท่าทีอยู่ แต่ว่ายังไม่ได้เริ่ม

จอม: ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากครับคุณโอลิเวอร์ แน่นอนว่าคนไทยต้องการประชาธิปไตย และเราก็ประทับใจที่คุณทราบความปรารถนาของพวกเรา เราจะพยายามสนับสนุนการรณรงค์ของคุณ และหวังว่าเราจะประความสำเร็จในการรณรงค์ครั้งนี้

โอลิเวอร / จรรยา: ยินดี  สู้ สู้ บาย 

จอม: ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ก็ว่าได้ สำหรับเรื่องของการเคลื่อนไหวเพื่อที่จะให้ทั่วโลกได้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งในเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยพระมหากษัตริย์ของไทย การแทรกแซงทางการเมือง นำไปสู่ปัญหาการที่ทำให้ประชาธิปไตยในประเทศไทยไม่ก้าวหน้า ก็มาจากบทบาทของพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ ก็ค่อนข้างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้น ถ้าหากมีองค์กร ที่เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่เป็นกลางทางการเมืองอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว และก็สามารถที่จะทำเรื่องนี้ได้ก็จะเป็นเรื่องที่ทำให้คนไทยนั้นได้พบกับความเข้าใจและเห็นถึงเรื่องของปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่ว่าจะต้องการทำลายประเทศชาติของเรา แต่ต้องการให้คนไทยนั้นมีสถานะ ของความเป็นประชาชนที่มีเสรีภาพมากขึ้น มีสิทธิของความเป็นมนุษย์มากขึ้น การกระทำของสถาบันพระมหากษัตริย์ ในปัจจุบัน หลายๆ เรื่องนั้น แหล่งเพาะเชื้อหรือแหล่งก่อกำเนิดทำให้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นในสังคมไทย  เป็นแหล่งกำเนิดที่ทำให้ความเป็นธรรมถูกทำให้เป็นสองมาตราฐาน เป็นแหล่งกำเนิดที่ทำให้ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยมันห่างกัน เป็นแหล่งกำเนิดที่ทำให้ประชาธิปไตยไม่ได้ถูกพัฒนาก้าวหน้าอย่างที่ควรจะเป็นพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ หรือวิธีคิดของโลกยุคใหม่ เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็กรุ่นใหม่ ของเยาวชนไทยที่โตขึ้นมาในยุคสมัยนี้ และความคิดของเขาก็เป็นไปในลักษณะที่ไม่ได้จะเห็นด้วย หรือเป็นการตั้งคำถามกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และอะไรมากมาย

เพราะฉะนั้นกระบวนการที่โอลิเวอร์ และคุณจรรยา ขององค์กร PixelHELPER เนี่ย ที่ทำก็น่าจะเป็นทางหนึ่งที่จะทำให้แสงสว่างในเรื่องของสิทธเสรีภาพของไทย ความเป็นประชาธิปไตย คุณค่าความเป็นคนในประเทศไทยนั้นฟื้นฟูกันมากขึ้น ถ้าทำได้สำเร็จ คนไทยหรือใครก็ตามที่ดูรายการนี้ หรือว่าแนวคิดของโอลิเวอร์ ของคุณเล็ก จรรยา เป็นแนวคิดที่น่าจะทำให้เกิดความเป็นจริงได้ ก็ร่วมสนับสนุนได้ ด้วยการให้เงินตามรายการนี้ 

และอีกสิ่งหนึ่งที่คุณจรรยา และคุณโอลิเวอร์ต้องการ ก็คือข้อมูลที่มั่นมีมากพอ เพราะที่ผ่านมาเราคุณกันเฉพาะในหมู่คนต่างประเทศ หรือแม้แต่ในประเทศเอง เราก็พูดคุยกันในแค่เสียกระซิบข่าวลือ บางเรื่องบางอันมันก็มีหลักฐาน แต่ว่ามันก็ไม่สามารถที่จะเอาหลักฐานมารวบรวมเป็นเรื่องเป็นราวได้ นี่ก็น่าจะเป็นองค์กรที่จะสามารถรวบรวมเรื่องราวที่เป็นสิ่งที่ทำ ของความหลักของความยุติธรรม เป็นแหล่งรวมที่น่าจะบอกได้ว่าน่าจะรวมกันได้ ลองดูนะ ไม่มีช่องทางไหนที่เคยทำได้ นี่น่าจะเป็นช่องทางที่น่าจะทำได้ และขอย้ำอีกที ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการทำลายชาติ ที่จะทำลายความเป็นประเทศไทย แต่เราต้องการให้ประเทศไทยมีจุดยืนในสังคมโลกได้อย่างมีเสรี องอาจ และมีศักดิ์ศรี ก็คงรู้กันในหมู่คนไทยในปัจจุบันนั้น ในสมัยปัจจุบันนั้น ประเทศไทยถูกกระทำให้เป็นประเทศที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีศักดิ์ศรี ไม่ค่อยมีความภาคภูมิใจในการขึ้นอยู่ในเวทีโลกอย่างสง่างามเหมือนเมื่อก่อน หรือว่าเราอาจจะไม่เคยมีก็ไม่ทราบได้ นี่คือสิ่งที่อยากจะให้ช่วยกันสนับสนุน และก็จะเป็นการทำให้ประเทศไทยมีความโปร่งใสมากขึ้น มีความเสมอภาคมากขึ้น และก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้กระบวนการประชาธิปไตยมันเริ่มต้นนับหนึ่ง ไม่ใช่วนอยู่ในหลูบเดิม ซ้ำแล้วซ้ำเล่า   เพราะว่าสถาบันพระมหากษัตริย์มักจะเกี่ยวข้องและสนับสนุนในการทำรัฐประหาร หรือการหยุดยั้งประชาธิปไตย เกือบทุกครั้งที่ผ่านมากเป็นร้อยปีก็ว่าได้ นี่น่าจะเป็นหนทางที่เป็นอีกทางหนึ่งที่จะก้าวข้ามวงจรอุบาทก์นี้   

นี่คือทั้งหมดของรายการเสียงไทยเพื่อเสรีภาพของคนไทยในวันนี้ คุยกันใหม่ครั้งหน้า สำหรับวันนี้ลาไปก่อนครับ